มีนาทรานสปอร์ต เผยภาพรวมธุรกิจปีนี้ยังคงเติบโตต่อเนื่อง รับอานิสงส์จากอุตสาหกรรมก่อสร้างฟื้น ขานรับงบประมาณปี 67 ของรัฐบาล การท่องเที่ยวที่จะเพิ่มขึ้นจากนโยบายฟรีวีซ่าของรัฐบาล หนุนธุรกิจรถมิกเซอร์สดใส และรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก TDM เต็มปี เล็งเปิดรับพันธมิตรใหม่เพื่อหนุนศักยภาพด้านบริการขนส่งกระจายสินค้าอุปโภคบริโภคเพิ่มขึ้น ด้านซีอีโอตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโตไม่ต่ำกว่า 15% พร้อมวางงบลงทุนครึ่งปีแรกประมาณ 130 ล้านบาท ขยาย Fleet รถเพื่อช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ที่ขยายตัวได้ต่อเนื่อง
นางสุวรรณา ขจรวุฒิเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มีนาทรานสปอร์ต จำกัด (มหาชน) หรือ MENA ผู้นำธุรกิจให้บริการขนส่งคอนกรีตผสมเสร็จด้วยรถมิกเซอร์ (Mixer) และรถเทรลเลอร์ (Trailer) รายใหญ่ของประเทศ เปิดเผยว่า บริษัทยังคงเชื่อมั่นว่าปีนี้จะเป็นอีกหนึ่งปีที่ภาพรวมธุรกิจของบริษัทยังคงขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องจากปี 2566 เนื่องจากธุรกิจโลจิสติกส์มีแนวโน้มเติบโตได้ดี โดยเฉพาะธุรกิจให้บริการรถมิกเซอร์ที่มีโอกาสเติบโตสูงจากอุตสาหกรรมก่อสร้างฟื้นตัวขานรับงบประมาณปี 67 ของรัฐบาล การท่องเที่ยวที่จะเพิ่มขึ้นจากนโยบายฟรีวีซ่าของรัฐบาล ทำให้บริษัทมั่นใจรายได้ปีนี้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 15%
ทั้งนี้ ในครึ่งแรกของปีนี้บริษัทเตรียมงบลงทุนประมาณ 130 ล้านบาท เพื่อใช้ในการขยาย Fleet รถประมาณ 50 คัน แบ่งเป็นรถ Mixer ประมาณ 40 คัน รถเทรลเลอร์ ประมาณ 10 คัน เพื่อช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับกับอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ที่ขยายตัวต่อเนื่อง รวมทั้งการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้รถ โดยเฉพาะรถที่เพิ่มในระหว่างปี 2566 กว่า 100 คัน ให้เต็มประสิทธิภาพ และการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก TDM ที่คาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่องจากปริมาณงานที่เพิ่มขึ้น
ปัจจุบัน MENA มีรถขนส่งให้บริการ 829 คัน แบ่งเป็นรถมิกเซอร์ 605 คัน รถเทรลเลอร์ 66 คัน หางพ่วงชนิดต่างๆ 118 หาง หางรถบรรทุกอาหารสัตว์ 26 คัน และรถขนส่งควบคุมอุณหภูมิรวมอีก 14 คัน โดยเพียงแค่ไตรมาสแรกปี 2567 ขยาย Fleet ไปแล้ว 38 คัน และหางลากอีก 10 คัน จากแผนที่วางไว้ในครึ่งปีแรก 50 คัน โดยมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในด้านการขนส่งทั้งในส่วนของรถมิกเซอร์ รถเทรลเลอร์ รถควบคุมอุณหภูมิ และรถขนส่งสินค้าเฉพาะทางเพื่อต่อยอดห่วงโซ่ธุรกิจ
“นับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา บริษัทเดินหน้าขยายธุรกิจตามแผนอย่างต่อเนื่อง และยังคงมองหาพันธมิตรใหม่ๆ เพื่อเพิ่มศักยภาพและต่อยอดธุรกิจหลักให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ทำให้เชื่อว่าปีนี้จะเป็นอีกหนึ่งปีที่ภาพรวมธุรกิจของบริษัทจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา” นางสุวรรณา กล่าว