นายระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ XSpring เปิดเผยว่า ในปี 2567 บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้รวมที่ 1,000 ล้านบาท เติบโตกว่า 47% แบ่งเป็นรายได้ดอกเบี้ย-กำไรจากการลงทุนและเงินปันผล 600 ล้านบาท รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการ 300 ล้านบาท และส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วม 100 ล้านบาท จากปี 2566 ที่มีรายได้รวม 681.1 ล้านบาท โดยรายได้หลักมาจากหลายด้าน ทั้งรายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผล จำนวน 505.7 ล้านบาท รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการอยู่ที่ 87.2 ล้านบาท และรายได้จากเงินลงทุน 75.7 ล้านบาท ส่งผลให้มีกำไรสุทธิ 106.09 ล้านบาท
นอกจากนี้ ในปีนี้ซึ่งครบรอบ 50 ปีของบริษัท จึงถือเป็นอีกก้าวย่างที่สำคัญแห่งการปฏิรูปองค์กรครั้งใหญ่ภายใต้แนวคิด "Lessons Learned for Better Tomorrow เรียนรู้และพัฒนาเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน" ใน 3 ด้านหลักๆ ได้แก่ การเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการทำงาน การพัฒนาศักยภาพพนักงาน และการเพิ่มศักยภาพทางด้านเทคโนโลยี ให้สามารถตอบสนองความต้องการให้ลูกค้ามากขึ้น รวมถึงการเปิดใช้แอปพลิเคชันของเอ็กซ์สปริงภายในปีนี้ด้วย โดยบริการทางเงินของเอ็กซ์สปริงปัจจุบันครอบคลุม 6 ธุรกิจ ได้แก่ บริการด้านวาณิชธนกิจ ธุรกิจสินเชื่อ ธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง ธุรกิจนายหน้าค้าหลักทรัพย์และสินทรัพย์ดิจิทัล ธุรกิจการลงทุน และธุรกิจบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ ซึ่ง ณ สิ้นปีก่อนมีพอร์ตอยู่ประมาณ 4,000 ล้านบาท และตั้งเป้าหมายซื้อหนี้เพิ่มในปีนี้อีก 1,000-1,500 ล้านบาท
นายระเฑียร กล่าวว่า เทียบแล้วเอ็กซ์สปริงไม่ใช่ระดับโกลบอล คอมปานี แต่ถ้าจะเทียบระดับกลางๆ อย่าง SET 100 หรือ MAI แล้ว ถือว่ามีโอกาสไม่แพ้คนอื่น โดยเราตั้งสถานะของเราไว้ว่าจะเป็นผู้นำทางการเงินในโลกการเงินยุคใหม่ เชื่อมระหว่างผู้ที่ต้องการลงทุนกับผู้ที่ต้องการเงินทุน ซึ่งในสภาวะเศรษฐกิจอย่างนี้ เราจะเห็นได้ว่ายังมีธุรกิจทื่ต้องการเงินทุนอีกไม่น้อยตรงนี้เป็นโอกาสที่ดี ขณะเดียวกันทีมวาณิชธนกิจยังเป็นจุดแข็งที่สำคัญที่จะเป็นธุรกิจที่ทำรายได้หลักของเราอยู่ ซึ่งหากมีการปรับโครงสร้างที่ดีจะสามารถบรรลุตามแผนงานในอนาคตได้ ขณะที่ฐานเงินทุนของบริษัทมีความแข็งแกร่ง ณ ระดับปัจจุบันที่ 9,000 ล้านบาท และจะเพิ่มเข้ามาในเดือนหน้าอีก 1,000 ล้านบาท ถือว่าเพียงพอต่อการดำเนินธุรกิจ
"ปีนี้เป็นปีที่มีความผันผวน ซึ่งมีจุดดี เพราะในความผันผวนมีทั้งความเสี่ยง แล้วก็มีโอกาสด้วย ซึ่งหากเราไม่ทำอะไรที่ท้าทายกับความเสี่ยงที่มากเกินไปจะเป็นโอกาสที่ดี เรารู้ว่าตัวเลขกำไรที่ 100 ล้าน ไม่ใช่ตัวเลขที่นักลงทุนพอใจ แล้วอย่าหวังว่าตัวเลขกำไรปีนี้จะก้าวกระโดด แต่มองว่าปีนี้กำไรจะเพิ่มขึ้น เพราะปัญหาที่มีอยู่เป็นสิ่งที่สะสมมาต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง ต้องมีการวางรากฐาน แต่เมื่อเห็นว่ากำไรโตก้าวกระโดดขึ้นมาเมื่อไหร่ ก็แสดงว่าแฟลตฟอร์มนี้ใช้ได้แล้ว"