'แอสเซท ไฟว์' ลุยพัฒนาโครงการระดับลักชัวรี ขับเคลื่อนธุรกิจเปิด 5 โครงการใหม่ มูลค่า 8,200 ล้านบาท ต่อเนื่องถึงปี 69 มั่นใจรายได้สู่ระดับ 5,000 ล้านบาท แย้มสนใจเจาะเค้ก 'ตลาดรับสร้างบ้านหรู' มีช่องให้เข้าเป็นผู้เล่นในตลาดพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล
นายศุภโชค ปัญจทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท ไฟว์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ A5 กล่าวถึงภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ระดับบนว่า ยังมีทิศทางเติบโต แต่การแข่งขันมีความรุนแรงมากขึ้น บริษัทมุ่งเน้นกลยุทธ์ขยายฐานลูกค้าเฉพาะกลุ่ม (Niche Market) ที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญ โดยเน้นพัฒนาโครงการประเภทแนวราบเป็นหลัก ผ่านการวิจัยศึกษาตลาดและพฤติกรรมกลุ่มเป้าหมาย มองหาโอกาสขยายโครงการไปในทำเลที่มีศักยภาพสูง เพื่อพัฒนาโครงการใหม่เพิ่มเติม ที่ยังเน้นนำเสนอดีไซน์ใหม่ๆ ที่แตกต่างอย่างโดดเด่น แต่ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายได้ดี รวมทั้งบริหารจัดการต้นทุนที่ดิน และค่าก่อสร้างให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เพื่อรักษาความสามารถในการทำกำไร ผลักดันให้รายได้เติบโตตามเป้าหมาย และส่งมอบโครงการระดับลักชัวรีที่มีคุณภาพเหนือความคาดหวังของลูกค้า มุ่งเน้นกลยุทธ์พัฒนาโครงการภายใต้แนวคิด "A5 GREATNESS Inspired by Love ใช้หัวใจที่ยิ่งใหญ่ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดและความแตกต่างให้ลูกค้า รวมถึงสังคม"
โดยหลังจากผลสำเร็จจากการพัฒนาโครงการระดับลักชัวรี สะท้อนจากผลประกอบการในปี 2566 รายได้เติบโต 1.25 เท่า มีตัวเลขที่ทำได้ 1,500 ล้านบาท เทียบปี 2565 ที่มีรายได้ระดับ 600 ล้านบาท โดยแหล่งรายได้หลักๆ มาจากโครงการ CINQ ROYAL กรุงเทพกรีฑา บ้านเดี่ยวหรู 3 ชั้นระดับ Super Luxury ขณะที่ตัวเลขกำไรเพิ่มขึ้นถึง 400% มาอยู่ที่ 500 ล้านบาท ซึ่งในปีนี้ A5 ยังคงมุ่งเน้นสร้างการเติบโตอย่างมีศักยภาพ ทั้งในส่วนของผลประกอบการ ฐานะทางการเงิน และการพัฒนาโครงการใหม่ เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าระดับบน
สำหรับกลยุทธ์ในการเดินธุรกิจตามแผนระยะสั้น ระหว่างปี 2567-2568 ว่า มีแผนเปิดโครงการใหม่จำนวน 5 โครงการ บนทำเลศักยภาพ กรุงเทพฯ โซนตะวันออกและตะวันตก เจาะกลุ่มลูกค้า Real Demand มูลค่ารวม 8,200 ล้านบาท ในปีนี้จะเปิดโครงการใหม่จำนวน 2 โครงการ มูลค่ารวม 3,350 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการ VANA ราชพฤกษ์-เวลต์วิลล์ โครงการบ้านเดี่ยว 3 ชั้น 43 ยูนิต บนที่ดิน 17 ไร่ มูลค่าโครงการรวม 1,700 ล้านบาท โดยตามแผนหลังเปิดขาย Pre-Sale ช่วงเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา คาดจะสามารถทยอยรับรู้รายได้เข้ามาในช่วงไตรมาส 2/2567
และโครงการ CINQ ROYAL แห่งใหม่ บ้านระดับ Super Luxury ราคา 100 ล้านบาทขึ้นไป มูลค่าโครงการประมาณ 1,650 ล้านบาท พื้นที่โซนบางนา รองรรับเพียง 18 ครอบครัว ทำเลที่สะดวกสบายและครบครัน ใกล้ห้างสรรพสินค้า โรงเรียนนานาชาติ โรงพยาบาล และสนามกอล์ฟ คาดจะสามารถเปิดตัวในช่วงไตรมาส 4/2567
ทั้งนี้ บริษัทจะสามารถสร้างการเติบโตของรายได้ปีนี้เพิ่มอีกกว่า 70% โดยมีเป้าหมายรายได้อยู่ที่ 2,500 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายรอบันทึกเป็นรายได้ (แบ็กล็อก) ประมาณ 1,680 ล้านบาท และจะมีรายได้ส่วนของ CINQ ROYAL กรุงเทพกรีฑา ที่มีมูลค่าอีก 400-500 ล้านบาท และโครงการ VANA ราชพฤกษ์-เวลต์วิลล์ นอกจากนี้ ยังได้เตรียมลงทุนซื้อที่ดินเพิ่ม มูลค่า 2,000 ล้านบาท เพื่อรองรับการพัฒนาโครงการใหม่ในอนาคตอย่างต่อเนื่อง
ส่วนในปี 2568 บริษัทเตรียมแผนพัฒนาโครงการแนวราบเพิ่มเติม จำนวน 3 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 4,850 ล้านบาท โดยมุ่งเน้นการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับลักชัวรี ภายใต้แบรนด์ VANA ซึ่งจะช่วยผลักดันให้รายได้ของบริษัทเติบโตอย่างสม่ำเสมอ โดยตั้งเป้าหมายรายได้ไว้ที่ 5,000 ล้านบาทภายใน ปี 2569
นายศุภโชค ยังได้กล่าวถึงโอกาสขยายไปสู่ตลาดรับสร้างบ้านระดับไฮเอนด์ว่า ตลาดบ้านสร้างเองทั่วประเทศมีมูลค่าประมาณ 2 แสนล้านบาท ซึ่งในทำเลกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตลาดบ้านสร้างเองมีมูลค่า 60,000 ล้านบาท โดยสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านสามารถเข้าไปมีส่วนแบ่งตลาดได้ประมาณ 10,000 กว่าล้านบาท ซึ่งตนมองว่า ยังมีโอกาสที่จะเข้าไปขยายบริการสร้างบ้านให้ลูกค้าในกรุงเทพฯ ได้ หากสามารถมีส่วนแบ่งตลาดในตลาดได้ประมาณ 10% ของมูลค่าในกรุงเทพฯ จะส่งผลต่อรายได้แอสเซท ไฟว์ฯ ที่เติบโตขึ้น