"อนันดา เอ็มเอฟ เอเชีย อโศกฯ" ร่อนเอกสารชี้แจงคดีคอนโดฯ ‘แอชตัน อโศก’ ยังไม่ถึงที่สุด ขณะที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งหาทางออก
วันนี้ (7 มี.ค.) ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์บริษัท อนันดา เอ็มเอฟ เอเชีย อโศก จำกัด ชี้แจงถึงกรณีมีการเผยแพร่ข่าวในสื่อออนไลน์เมื่อวันที่ 6 มี.ค.2567 หัวข้อข่าว “คดีคอนโด แอชตัน อโศก หากไม่คืบใน 3 เดือน ศาลปกครองชี้ กทม.อาจต้องสั่งรื้อตึก”
โดยนำเสนอเนื้อหาข่าวเกี่ยวกับกรณีปัญหาการบังคับคดีแอชตันอโศก ที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาให้เพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้างว่า คดีนี้ศาลสั่งให้เพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้างตึกแอชตันอโศก เนื่องจากเห็นว่าเป็นการออกใบอนุญาตโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลไม่ได้สั่งว่าจะต้องรื้อ หรือจะบังคับคดีเป็นอื่นใด
ฉะนั้น อีก 3 เดือนต่อจากนี้จะครบกำหนดตามคำพิพากษาที่ให้ กทม. บริษัท อนันดา เอฟเอ็ม เอเชีย อโศก จำกัด และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เร่งแก้ไขปัญหาให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคารภายใน 180 วัน ทั้ง 3 หน่วยงานดังกล่าวจะต้องหาข้อยุติให้ได้โดยเร็ว หากหาทางออกไม่ได้ กทม.ต้องมีหน้าที่บังคับให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ด้วยการรื้อถอนส่วนของอาคารที่สูงเกินกว่าความกว้างถนนให้เสร็จภายใน 90 วัน
ซึ่งเนื้อหาที่มีการเผยแพร่มีความคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง อาจก่อให้เกิดความสับสน และอาจทำให้ท่านเจ้าของร่วม รวมทั้งประชาชนเข้าใจผิดในสาระสำคัญของคดีของศาลปกครองสูงสุด
ทั้งนี้ บริษัท อนันดา เอ็มเอฟ เอเชีย อโศก จำกัด (บริษัท) จึงขอชี้แจงว่า รายละเอียดในข่าวดังกล่าวข้างต้น เป็นเนื้อหาคำพิพากษาคดีของศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขดำที่ 450/2560 คดีหมายเลขแดงที่ 2413/2565 ระหว่างสยามสมาคม ในพระบรมราชูปถัมภ์ (ผู้ฟ้องคดี) กับผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1) ผู้อำนวยการสำนักโยธา (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2) ผู้อำนวยการเขตวัฒนา (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3) และบริษัท อนันดา เอ็มเอฟ เอเชีย อโศก (ผู้ร้องสอดที่ 1) ฟม. (ผู้ร้องสอดที่ 2) นิติบุคคลอาคารชุด แอชตัน อโศก (ผู้ร้องสอดที่ 3)
ศาลปกครองกลางได้พิพากษาให้ “ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสามร่วมกันปรึกษาหารือกับผู้ร้องสอดที่ 1, 2 เพื่อหาแนวทางแก้ไขการก่อสร้างที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายภายใน 180 วัน นับแต่คดีถึงที่สุด หากไม่สามารถแก้ไขได้ให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 และที่ 3 ใช้อำนาจรื้อการก่อสร้างส่วนที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายภายใน 90 วัน”
ปัจจุบัน คู่ความทุกฝ่ายได้อุทธรณ์คำพิพากษาของศาลปกครองกลาง ไปยังศาลปกครองสูงสุด และคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองสูงสุด คดีดังกล่าวจึง “ยัง” ไม่ถึงที่สุด และยังไม่มีการบังคับคดีใดๆ **ข้อมูลอ้างอิง (โปรดดูคำพิพากษาศาลปกครองกลาง หน้า 31 https://www.admincourt.go.th/admincourt/upload/webcms/News/News_251122_080920.pdf)
อย่างไรก็ตาม กรณีโครงการแอชตัน อโศก มีอีก 1 คดีคือ คดีหมายเลขดำที่ อส.67/2564 คดีหมายเลขแดงที่ อส. 188/2566 ระหว่าง สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน กับพวก (ผู้ฟ้องคดี) กับผู้อำนวยการเขตวัฒนา ที่ 1 กับพวกรวม 5 คน (ผู้ถูกฟ้องคดี) และบริษัท อนันดา เอ็มเอฟ เอเชีย อโศก จำกัด หรือบริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ ทู จำกัด (ผู้ร้องสอด)
ที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาไปเมื่อวันที่ 27 ก.ค.2566 โดยศาลปกครองสูงสุดพิพากษาให้เพิกถอนใบรับหนังสือแจ้งความประสงค์จะก่อสร้างโดยมิได้กำนดระยะเวลาการบังคับคดีแต่อย่างใด **ข้อมูลอ้างอิง (โปรดดูคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด หน้า 132-133 https://www.admincourt.go.th/admincourt/upload/webcms/News/News_280723_111611.pdf)
ทั้งนี้ บริษัทมีความเชื่อและมั่นใจในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐถึงการหาแนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าวที่เกิดขึ้น โดยในวันที่ 24 ต.ค.2566 “กระทรวงคมนาคมได้ดำเนินการแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อเร่งหาแนวทางแก้ไขปัญหาและลดผลกระทบให้ประชาชน จากกรณีอาคารชุดแอชตัน อโศก”
กระทรวงคมนาคมได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณาแนวทางในการแก้ไขปัญหาแก่ผู้ได้รับผลกระทบการอนุญาตใช้พื้นที่ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย และมีอำนาจในการเสนอแนะแนวทางการแก้ไขปัญหา รวมถึงมาตรการบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน
ปัจจุบัน คณะทำงานอยู่ระหว่างการพิจารณา และเร่งหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็ววันนี้ ทั้งนี้ บริษัทยินดีให้ความร่วมมือในการดำเนินการของคณะทำงานอย่างเต็มที่ และรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่หน่วยงานภาครัฐให้ความใส่ใจต่อความเดือดร้อนของประชาชน