นายรองรักษ์ พนาปวุฒิกุล รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานกฎหมาย และหัวหน้ากลุ่มงานเลขานุการองค์กรและกำกับองค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลท.เตรียมพิจารณาจ่ายเงินชดเชยให้ผู้ได้รับผลกระทบจากความผิดพลาดของระบบที่ไปปลดเครื่องหมาย SP หุ้น บมจ.มิลล์คอน สตีล (MILL) และ บมจ.เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป (JKN) เช้าวานนี้ (4 ม.ค.) ทั้งๆ ที่ ตลท.ขึ้น SP หุ้นทั้ง 2 ตัวเพื่อห้ามการซื้อขายตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.67 เนื่องจากไม่ส่งงบการเงินปี 66 โดยระบบได้เปิดให้ซื้อขายหุ้น MILL และ JKN เพียงช่วง 20 นาทีแรกเท่านั้น ก่อนที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะสั่งยุติการซื้อขายในหุ้นทั้ง 2 ตัว
ขณะที่หุ้นอื่นๆ ที่ขึ้น SP ได้แก่ บมจ.กรุ๊ปลีส (GL) บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD) บมจ.กุลธรเคอร์บี้ (KKC) ไม่ได้ถูกเปิดให้ซื้อขายเหมือนกับกรณีของ JKN และ MILL มีเพียง บมจ.เพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง (PLE) ที่ ตลท.อนุญาตให้กลับมาซื้อขายได้ตามปกติหลังจากส่งงบการเงินปี 66 แล้ว
ตลท.ยอมรับว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดจากความไม่เข้าใจในคำสั่งของระบบจับคู่คำสั่งซื้อขาย หรือ NASDAQ MME ทำให้เกิดความผิดพลาดในการส่งคำสั่งออกไป อย่างไรก็ตาม จากการหารือกับบริษัทหลักทรัพย์ (โบรกเกอร์) ในเรื่องของความเสียหายของลูกค้าที่เกิดขึ้น จากการตรวจสอบพบว่าในช่วงเวลา 20 นาทีมีมูลค่าการซื้อขายรวมประมาณ 6 ล้านบาท จึงเชื่อว่ามูลค่าความเสียหายน่าจะไม่เกินจำนวนนี้
"เรายืนยันว่าระบบของ NASDAQ นั้นดี แต่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังไม่คุ้นเคยกับระบบ จากนี้จะเพิ่มความระมัดระวัง และทำความเข้าใจกับระบบ รวมถึงพูดคุยกับทาง NASDAQ เพิ่มเติม ซึ่งขอย้ำว่าจะไม่ให้เกิดกรณีแบบนี้ขึ้นอีก" นายรองรักษ์ กล่าว
สำหรับการขยายเวลาซื้อขายภาคบ่ายของ SET และ mai ให้เร็วขึ้น 30 นาที โดยช่วงเปิดตลาดภาคบ่าย (Pre-open) เป็น 13.30-14.00 น. และช่วงเวลาทำการซื้อขายเป็น 14.00-16.30 น. เริ่ม 25 มี.ค.นี้ ปัจจุบันระบบการซื้อขายมีความพร้อมแล้ว โดยทาง ตลท.คาดหวังว่าจะช่วยให้ปริมาณการซื้อขายเพิ่มมากขึ้น