xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นไทยปิดร่วง -4.83 จุด โบรกฯ แนะจับตาดัชนีเงินเฟ้อไทย-ภาคการจ้างงานสหรัฐ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หุ้นไทยซึมต่อปิดร่วง -4.83 จุด แกว่งในกรอบแคบๆสวนทางกับตลาดหุ้นในภูมิภาคซึ่งส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในทิศทางบวก นักวิเคราะห์เผยหุ้นไทยไร้ปัจจัยใหม่หนุน หลังตลาดรับข่าวดีงบ บจ.ไปแล้ว มองกรอบการลงทุนวันพรุ่งนี้แนวรับที่ 1,355 จุด และแนวต้านที่ 1,370 จุด แนะจับตาการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อเดือน ก.พ. ของไทยในสัปดาห์นี้ และภาคการจ้างงานของสหรัฐ ซึ่งถ้าหากเพิ่มขึ้นก็จะส่งผลเชิงบวกกับตลาดทุน

ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 4 มี.ค. 2567 ปรับตัวลดลง -4.83 จุด หรือ -0.35% โดยปิดตลาดที่ 1,362.57 จุด มูลค่าซื้อขาย 40,361.88 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการซื้อขายหุ้นในวันนี้ดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,372.01 จุด ในทิศทางกลับกันที่ปรับตัวลดลงต่ำสุด 1,362.05 จุด

ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 201 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 156 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 301 หลักทรัพย์

ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิกว่า -583.30 ล้านบาท และ นักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -270.94 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า +768.06 ล้านบาท และ บัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า +86.17 ล้านบาท

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,850.29 ล้านบาท ปิดที่ 64.75 บาท ลดลง 0.75 บาท
2.BDMS มูลค่าการซื้อขาย 1,542.21 ล้านบาท ปิดที่ 27.75 บาท ลดลง 0.25 บาท
3.PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,453.17 ล้านบาท ปิดที่ 34.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
4.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,258.85 ล้านบาท ปิดที่ 124.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
5.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,144.20 ล้านบาท ปิดที่ 152.00 บาท เพิ่มขึ้น 2 บาท

ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่ 
 1.BHปิดที่ 229.00 ยาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท หรือ 1.33% 
 2.BCP ปิดที่แ 44.00 ยาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ 4.76% 
 3.PTTEP ปิดที่ 152.00ยาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ 1.33% 
 4.ADVANC ปิดที่ 208.00 ยาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ 0.97% 
 5.TOP ปิดที่ 57.25 เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ 2.69 % 

 ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่ 
 1.CBG ปิดที่63.00บาท ลดลง 5.50 บาท หรือ-8.03% 
 2.THG ปิดที่43.75บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ-3.31% 
 3.CPALL ปิดที่ 56.25 บาท ลดลง 1.25 บาท หรือ 2.17% 
 4.GPSC ปิดที่ 50.75บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ-1.93% 
 5.DELTA ปิดที่ 67.00 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ 1.47%

ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 1,842.85 จุด ลดลง -5.90 จุด หรือ -0.32% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 831.58 จุด ลดลง -2.27 จุด หรือ -0.27% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 412.23 จุด ลดลง -1.01 จุด หรือ -0.24% 

นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ สวนทางตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ปรับตัวขึ้นได้ดี เนื่องจากยังคงไร้ปัจจัยใหม่ หลังหมดรอบการแจ้งงบการเงินของบริษัทจดทะเบียน ส่วนปัจจัยในต่างประเทศก็ดูเงียบๆ

อย่างไรก็ตาม คาดว่านักลงทุนน่าจะรอการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อเดือน ก.พ. ของไทยในสัปดาห์นี้ ซึ่งตลาดคาดว่าจะอยู่ที่ -0.8% YoY หากติดลบมากกว่านั้นอาจเป็นบวกต่อตลาดหุ้น รวมถึงตัวเลขภาคแรงงานของสหรัฐในวันศุกร์นี้ด้วย ทั้งการจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราว่างงาน เป็นต้น 

 "แนวโน้มวันพรุ่งนี้ ตลาดน่าจะยังแกว่งไซด์เวย์ในกรอบ และยังต้องติดตามปัจจัยใหม่ๆ โดยมองแนวรับที่ 1,355 จุด และแนวต้านที่ 1,370 จุด" นายวทัญ กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น