xs
xsm
sm
md
lg

พลัสฯ เผยอสังหาฯรายใหญ่ปี 66 ผลประกอบการดี "LH" แชมป์กำไร 7.4 พันล้านบาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ระบุท่ามกลางเศรษฐกิจปี 2567 ที่มีความท้าทาย 8 ยักษ์ใหญ่ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทยเผยผลประกอบการปี 2566 สุดอลังการ แสนสิริคว้าแชมป์ที่ 1 รายได้รวม ขณะที่แลนด์แอนด์เฮ้าส์ทำกำไรสุทธิสูงสุด สะท้อนกลยุทธ์ที่แตกต่าง นอกจากนี้ หากพิจารณาในแง่ของการลงทุนผ่านหุ้นอสังหาฯ ทั้ง 8 บริษัท มีอัตรา Dividend Yield ที่ดี อยู่ที่ 6-11% นำโดยแสนสิริ (11%)

บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ได้รวบรวมผลประกอบการ ปี 2566 ของ 8 ยักษ์บริษัทอสังหาริมทรัพย์ เปรียบเทียบให้เห็นว่าแต่ละบริษัทมีตัวเลขกำไร รายได้ และอัตราการเติบโตมากน้อยแค่ไหน และสิ่งนี้ส่งสัญญาณอะไรต่อตลาดอสังหาฯ ในปี 2567 สะท้อนให้เห็นแนวทางในการบริหารที่แตกต่างออกไป และส่งสัญญาณให้จับตาอะไรต่อตลาดอสังหาฯ ในปีนี้และหุ้นอสังหาริมทรัพย์จัดอยู่ในกลุ่มที่ให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) ที่ค่อนข้างสูง สะท้อนจาก 8 บริษัทนี้มีระดับ Dividend Yield ที่ 6-11% นำโดยแสนสิริ 11.0% ถัดมาคือ พฤกษา 7.7% เอสซี แอส เสท 7.2% ศุภาลัย 7% ควอลิตี้เฮ้าส์ 6.8% แลนด์แอนด์เฮ้าส์และเอพี ไทยแลนด์เท่ากันอยู่ที่ 6.6% ออริจิน 6% ตามลำดับ

แสนสิริ แชมป์ผลประกอบการรายได้อันดับ 1 รายได้รวม 39,082 ล้านบาท กำไรสุทธิ 6,060 ล้านบาท

แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ กำไรสุทธิสูงสุด 7,482 ล้านบาท รายได้รวม 30,170 ล้านบาท โดยปีนี้มีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 11 โครงการ มูลค่า 30,200 ล้านบาท

เอพี ไทยแลนด์ มีรายได้ 38,399 ล้านบาท กำไรสุทธิ 6,054 ล้านบาท ปีนี้มีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 48 โครงการ มูลค่า 58,000 ล้านบาท

ศุภาลัย สร้างรายได้ 31,818 ล้านบาท กำไรสุทธิ 5,989 ล้านบาท ซึ่งเตรียมลงทุนเปิดตัวโครงการมากถึง 42 โครงการ มูลค่า 50,000 ล้านบาทในทำเลใหม่ๆ

พฤกษา มีรายได้ 26,132 ล้านบาท กำไรสุทธิ 2,205 ล้านบาท โดยปีนี้วางแผนเปิดตัวอสังหาริมทรัพย์ใหม่ทั้งหมด 30 โครงการ รวมมูลค่า 29,000 ล้าน แบ่งเป็นกลุ่มราคาเข้าถึงได้ 50% และกลุ่มราคากลางถึงบน หรือมากกว่า 7 ล้านบาท 50% ประกอบด้วยทาวน์โฮม 17 แห่ง บ้านเดี่ยว 10 แห่ง และคอนโดมิเนียม 3 แห่ง

เอสซี แอสเสท รายได้รวม 24,566 ล้านบาท กำไรสุทธิ 2,482 ล้านบาท และทุ่มงบลงทุนกว่า 25,000 ล้านบาท พร้อมลุยธุรกิจหลากหลาย ที่อยู่อาศัย โรงแรม คลังสินค้า และออฟฟิศ มากถึง 103 โครงการ

ออริจิ้น รายได้รวม 15,157 ล้านบาท กำไรสุทธิ 2,718 ล้านบาท ออริจิ้น ทำรายได้ 15,157 ล้านบาท มีการเติบโตลดลง 3.7% ทำกำไรสุทธิ 2,718 ล้านบาท ในปีนี้มีแผนเปิดโครงการใหม่ในปี 2567 ทั้งสิ้น 14 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 20,000 ล้านบาท

ควอลิตี้เฮ้าส์ รายได้รวม 9,237 ล้านบาท กำไรสุทธิ 2,503 ล้านบาท ปี 2567 ตั้งเป้าแผนเปิด 6 โครงการ มูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท ในกรุงเทพมหานคร

คาดการณ์อสังหาฯ ยังชะลอตัว

นายอนุกูล รัฐพิทักษ์สันติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมตอบโจทย์ทุกบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ วิเคราะห์ว่า ปี 2567 เป็นปีแห่งความหวังในการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจไทยอย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น ปัจจัยหนุนจากนโยบายภาครัฐที่มีการกระตุ้นเศรษฐกิจในหลายภาคส่วน เช่น การลดค่าใช้จ่ายให้ภาคครัวเรือน ทำให้ค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพลดลงและมีเงินเหลือไปใช้จ่ายอย่างอื่นได้ รวมถึงการเปิดรับนักท่องเที่ยว และเปิดประเทศเป็นแหล่งผลิตของโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ให้ธุรกิจต่างชาติ ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาดำเนินการได้อย่างเต็มที่ และผู้ประกอบการอสังหาฯ มีการปรับแผนธุรกิจให้มีความเหมาะสม ชูจุดแข็งที่แตกต่างกัน บางบริษัทชะลอการเปิดโครงการเพื่อรอประเมินสถานการณ์ บางบริษัทเดินหน้าเปิดโครงการใหม่แบบเต็มกำลัง หรือบางบริษัทยังคงขยายในตลาดที่อยู่อาศัยไปพร้อมกับพยายามหารายได้จากช่องทางอื่นๆ ควบคู่กันไป แต่ในภาพรวมของปีที่ผ่านมา สอดคล้องกับข้อมูลศูนย์อสังหาริมทรัพย์ (REIC) ที่คาดการณ์ว่า ตลาดที่อยู่อาศัยจะฟื้นตัวขึ้น โดยเป็นผลมาจากการปรับตัวของผู้ประกอบการในตลาดมีการปรับสมดุลระหว่างสินค้าเหลือขายและสินค้าเข้าใหม่ ซึ่งคาดว่าจะมีที่อยู่อาศัยเปิดใหม่ 108,886 ยูนิต เพิ่มขึ้น 13.7% แต่ในภาพรวมอสังหาฯ รายใหญ่ๆ ของประเทศยังคงตบเท้าโชว์ฟอร์มผลประกอบการที่สวยงามสะท้อนถึงแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจอสังหาฯ ที่ดี

อย่างไรก็ตาม ตลาดอสังหาฯ ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องเฝ้าติดตามและเตรียมรับมือในอีกหลายประเด็น ทั้งทิศทางการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ ที่จะมีผลกระทบต่อประเทศไทย แนวโน้มราคาพลังงานและราคาโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวสูงขึ้น กดดันให้ต้นทุนและอัตราเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น ตลอดจนการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยจากธนาคาร อย่างไรก็ดี พลัส พร็อพเพอร์ตี้เชื่อมั่นว่าปี 2567 ธุรกิจอสังหาฯ ยังคงมีศักยภาพในการเติบโต ผู้ประกอบการจะต้องปรับตัวและหาโอกาสใหม่ๆ อยู่เสมอ
กำลังโหลดความคิดเห็น