xs
xsm
sm
md
lg

(รับชมคลิป) 10 หุ้น SET100 กำไรปี 66 โตกว่าปี 65 ฉ่ำๆ! พบ "เสี่ยยักษ์-หมอพงษ์ศักดิ์" ร่วมถือด้วย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ทยอยประกาศผลประกอบการในปี 2566 กันไปเกือบหมดแล้ว ถ้าโฟกัสที่ดัชนี SET100 เพื่อจะสำรวจว่า มีหลักทรัพย์ใดที่มีอัตราการเปลี่ยนแปลงกำไรสุทธิสูงสุด 10 อันดับ ซึ่งหมายความว่าบริษัทนั้น ๆ ทำกำไรปี 2566 เติบโตกว่า ปี 2565 คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ที่สูงมาก และเมื่อส่องลงไปในรายละเอียดผู้ถือหุ้นใหญ่ ยังพบเซียนหุ้นคนดังอย่างเสี่ยยักษ์ วิชัย วชิรพงศ์,หมอพงษ์ศักดิ์ และ คเชนทร์ เบญจกุล ร่วมถือหุ้นในบางหลักทรัพย์ด้วย

1.GPSC บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) อัตราการเปลี่ยนแปลงกำไรสุทธิปี66 +314.41% (ปี 65 กำไรสุทธิ 891.45 ล้านบาท ปี 66 กำไรสุทธิ 3,694.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้น2,802.77 ล้านบาท) ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี คือ +6.70%, ย้อนหลัง 1 สัปดาห์ คือ -2.36% ,อัตราเงินปันผลตอบแทน YTD ปี 67 คือ 1.43%,ปี 66 คือ 1.03%, ปี 65 คือ 2.05%,ราคา ณ 1มี.ค.67 ปิด 51.75 บาท ,ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์ คือ 69.75 / 37.00 บาท , มาร์เก็ตแคป 145,920.99 ล้านบาท, ค่า P/E 39.50 เท่า ,บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ถือใหญ่สุด 47.27%
 
GPSC ปัจจัยบวกทั้งกำลังการผลิตในมือที่จะเพิ่มขึ้น จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนประเทศอินเดีย และยังที่มีโอกาสที่กำลังการผลิตใหม่จะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกปี ตามการเปิดประมูลรับซื้อไฟฟ้าของประเทศอินเดีย รวมถึงการเปิดประมูลรับซื้อไฟฟ้าในไทย

2.NEX บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) อัตราการเปลี่ยนแปลงกำไรสุทธิ ปี 66 +248.06% (ปี 65 กำไรสุทธิ 208.37 ล้านบาท ปี 66 กำไรสุทธิ 725.26 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 516.89 ล้านบาท) ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี คือ -3.00%, ย้อนหลัง 1 สัปดาห์ คือ -7.62%, ราคา ณ 1 มี.ค.67 ปิด 9.70 บาท ,ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์คือ 15.10 / 8.50 บาท , มาร์เก็ตแคป 19,611.73 ล้านบาท, ค่า P/E 26.96 เท่า ,บริษัท อีเอ โมบิลิตี โฮลดิง จำกัด ถือใหญ่สุด 40.01%
 
NEX รับประโยชน์บอร์ดอีวี ออกมาตรการสำคัญสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ทั้งรถโดยสารไฟฟ้า (E-Bus) และรถบรรทุกไฟฟ้า (E-Truck) และออกแพกเกจสนับสนุนผู้ผลิตแบตเตอรี่ระดับเซลล์สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า และระบบกักเก็บพลังงาน

3.CENTEL บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) อัตราการเปลี่ยนแปลงกำไรสุทธิ ปี66 +213.53% (ปี 65 กำไรสุทธิ 398.08 ล้านบาท ปี 66 กำไรสุทธิ 1,248.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 850.02 ล้านบาท) ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี -2.29%, ย้อนหลัง1สัปดาห์ คือ -0.58% ,อัตราเงินปันผลตอบแทน YTD ปี 67 คือ 0.98%,ปี 66 คือ -%, ปี 65 คือ -%,ราคา ณ 1 มี.ค.67 ปิด 42.75บาท ,ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์ คือ 58.25 / 40.75 บาท , มาร์เก็ตแคป 57,712.50 ล้านบาท, ค่า P/E 46.24 เท่า,บริษัท เตียง จิราธิวัฒน์ จำกัด ถือใหญ่สุด 5.00%
 
CGSI ระบุในไตรมาส 4/66 ส่วนยอดขายจากสาขาเดิมโตขึ้น 2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนและ 3% ในปี 66 ในขณะที่อัตราการเติบโตของยอดขายรวมทุกสาขา (TSS) คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 8% ในปี 67 และ 10% ในปี 68

4.TOA บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) อัตราการเปลี่ยนแปลงกำไรสุทธิ ปี66 +81.16% (ปี 65 กำไรสุทธิ 1,418.22 ล้านบาท ปี 66 กำไรสุทธิ 2,569.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้น1151.01 ล้านบาท) ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี คือ -10.62%, ย้อนหลัง1สัปดาห์ คือ -6.05% ,อัตราเงินปันผลตอบแทน YTD ปี67คือ 3.37%,ปี66 คือ 2.21%, ปี 65 คือ 1.48%,ราคา ณ 1 มี.ค.67 ปิด 20.20 บาท ,ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์ คือ 34.25 / 19.20 บาท , มาร์เก็ตแคป 40,985.80 ล้านบาท, ค่า P/E 15.95 เท่า,บริษัท ทีโอเอ กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด ถือใหญ่สุด 29.99%
 
TOA ปี 2566 กวาดรายได้รวมกว่า 22,479 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 8% ตั้งเป้าปี 2567 ยอดขายเติบโต 8% ทั้งนี้บอร์ดมีมติไฟเขียวจ่ายปันผลในอัตรา 0.35 บาท/หุ้น เผยแนวโน้มกำไรยังสดใส พร้อมเดินหน้าสู่ปีที่ 60 ด้วยกลยุทธ์การเติบโตอย่างยั่งยืนตามแนวทาง ESG

5.SISB บริษัท เอสไอเอสบี จำกัด (มหาชน) +76.98% อัตราการเปลี่ยนแปลงกำไรสุทธิปี 66 ( ปี 65 กำไรสุทธิ 369.28 ล้านบาท ปี 66 กำไรสุทธิ 653.53 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 284.25 ล้านบาท ) ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี คือ +21.13%, ย้อนหลัง 1 สัปดาห์ คือ +13.16% ,อัตราเงินปันผลตอบแทน YTD ปี 67 คือ 0.72%, ปี 66 คือ 0.45%, ปี 65 คือ 0.50%,ราคา ณ 1 มี.ค.67 ปิด 43.00 บาท ,ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์คือ 44.00 / 24.20 บาท , มาร์เก็ตแคป 40,420.00 ล้านบาท, ค่าP/E 61.85 เท่า ,MR. YEW HOCK KOH ถือใหญ่สุด 32.84%,หมอพงศ์ศักดิ์ ธรรมธัชอารี 1.66%,นาย คเชนทร์ เบญจกุล 1.33%

บอร์ดSISBอนุมัติเสนอจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดอัตราหุ้นละ 0.31 บาท ขึ้นเครื่องหมาย XD และ XM วันที่ 8 มีนาคม 2567 ผู้บริหารระบุแผนธุรกิจปี 2567 เตรียมขยายโรงเรียนนานาชาติสาขาปัจจุบันกว่า 1,500 ที่นั่ง พร้อมเปิดรับนักเรียนเพิ่ม สนับสนุนผลงานปีนี้เติบโตแข็งแกร่ง

6.TKN บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) อัตราการเปลี่ยนแปลงกำไรสุทธิปี66 +70.91% (ปี 65 กำไรสุทธิ 434.74 ล้านบาท ปี 66 กำไรสุทธิ 743.01ล้านบาท เพิ่มขึ้น 308.27 ล้านบาท) ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี คือ +23.16%, ย้อนหลัง1สัปดาห์ คือ +10.38% ,อัตราเงินปันผลตอบแทน YTD ปี 67 คือ 3.93%,ปี 66 คือ 3.05%, ปี 65 คือ1.21%, ราคา ณ 1 มี.ค.67 ปิด 11.70 บาท ,ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ52สัปดาห์คือ 14.40 / 8.65บาท , มาร์เก็ตแคป 16,146.00 ล้านบาท, ค่าP/E 21.73 เท่า ,บริษัท พีระเดชาพันธ์ โฮลดิ้ง จำกัด ถือใหญ่สุด 26.09%
 
บอร์ดอนุมัติเสนอจ่ายเงินปันผลเพิ่มอีกในอัตราหุ้นละ 0.15 บาทต่อหุ้น โดยกำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 7 มี.ค.67 และกำหนดจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 7 พ.ค.67 ทั้งนี้ หากรวมกับการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วจำนวน 2 งวด รวมทั้งสิ้น 0.46 บาทต่อหุ้น

7.ICHI บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) อัตราการเปลี่ยนแปลงกำไรสุทธิปี 66 +71.50% (ปี 65 กำไรสุทธิ 641.64 ล้านบาท ปี 66 กำไรสุทธิ 1,100.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 458.78 ล้านบาท ) ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี คือ +18.47%, ย้อนหลัง 1 สัปดาห์ คือ 6.90% ,อัตราเงินปันผลตอบแทน YTD ปี 67 คือ 5.38%,ปี 66 คือ 3.82%, ปี 65 คือ 4.42%,ราคา ณ 1มี.ค.67 ปิด 18.60 บาท ,ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ52สัปดาห์คือ 18.80 / 11.50 บาท , มาร์เก็ตแคป 24,180.00 ล้านบาท, ค่าP/E 21.97 เท่า,นายตัน ภาสกรนที ถือใหญ่สุด 27.74%,นายคเชนทร์ เบญจกุล1.49%
 
บอร์ดประกาศจ่ายเงินปันผล 50 สตางค์ต่อหุ้น มากสุดในรอบ 6 ปี จากกำไรสุทธิ 1,100 ล้านบาท เพิ่มจากปีก่อนที่กำไรสุทธิเพียง 650 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นกำไรสุทธิมากสุดในรอบ 5 ปี "ตัน ภาสกรนที” เตรียมคลอดเครื่องดื่มชูกำลัง “Tan power “ เดือน มี.ค.นี้ มั่นใจยอดขายดันรายได้ทั้งปีเติบโต 9 พันล้านบาท

8.SAPPE บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) อัตราการเปลี่ยนแปลงกำไรสุทธิปี 66 +64.46% (ปี 65 กำไรสุทธิ 653.15 ล้านบาท ปี 66 กำไรสุทธิ 1,074.20 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 421.05 ล้านบาท) ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี คือ +3.76%, ย้อนหลัง 1 สัปดาห์ คือ +7.49% ,อัตราเงินปันผลตอบแทน YTD ปี 67 คือ 1.84%,ปี 66 คือ 1.91%,ปี 65 คือ 2.48%,ราคา ณ 1 มี.ค.67 ปิด 89.75 บาท ,ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์คือ 100.00 / 37.00บาท , มาร์เก็ตแคป 27,668.94 ล้านบาท, ค่าP/E 25.76 เท่า ,น.ส. ปิยจิต รักอริยะพงศ์ ถือใหญ่สุด 17.70 %,นายคเชนทร์ เบญจกุล 1.45%,นายมงคล ประกิตชัยวัฒนา 1.10%

บริษัทฯ มีรายได้จากการขายในปี 2566 เท่ากับ 6,052.6 ล้านบาท ซึ่งเป็นยอดรายได้ที่สูงที่สุดตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทฯ (All-Time High) คิดเป็นการเติบโต 32.5% เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนหน้า โดยมีปัจจัยหลักมาจากการเติบโตของยอดขายในต่างประเทศจากทุกภูมิภาค เอเชีย ยุโรป ตะวันออกกลาง อเมริกา และไทย

9.MOSHI บริษัท โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) อัตราการเปลี่ยนแปลงกำไรสุทธิ ปี66 +58.59% (ปี 65 กำไรสุทธิ 253.17 ล้านบาท ปี 66 กำไรสุทธิ 401.51 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 148.34 ล้านบาท) ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี คือ +7.48%, ย้อนหลัง 1 สัปดาห์ คือ +4.07% ,อัตราเงินปันผลตอบแทน YTD ปี 67 คือ 1.04%,ปี 66 คือ 0.17%, ปี 65 คือ -%,ราคา ณ 1 มี.ค.67 ปิด 57.50 บาท ,ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์คือ 62.00 / 37.75บาท , มาร์เก็ตแคป 18,975.00 ล้านบาท, ค่า P/E 47.26 เท่า มีนาย สง่า บุญสงเคราะห์ ถือใหญ่สุด 9.60%

ภาพรวมการดำเนินงานในปี 2566 เติบโตได้ตามที่คาดการณ์ไว้ และเป็นการทำผลงานสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (New High) ตั้งแต่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯบอร์ดอนุมัติจ่ายเงินปันผลจากการดำเนินงานในปี 2566 ในอัตรา 0.60 บาทต่อหุ้น

10.BEM บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) อัตราการเปลี่ยนแปลงกำไรสุทธิ ปี66 +42.79% (ปี65 กำไรสุทธิ 2,436.18 ล้านบาท ปี 66 กำไรสุทธิ 3,478.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,042.47 ล้านบาท) ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี คือ +1.26%, ย้อนหลัง 1 สัปดาห์ คือ +1.90% ,อัตราเงินปันผลตอบแทน YTD ปี 67 คือ 1.74%,ปี 66 คือ 1.51%, ปี 65 คือ 0.82%,ราคา ณ 1 มี.ค.67 ปิด 8.05 บาท ,ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ52สัปดาห์คือ9.35 / 7.15บาท , มาร์เกตแคป123,044.25 ล้านบาท, ค่า P/E 35.37 เท่า,บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) ถือใหญ่สุด 34.41% ,นาย วิชัย วชิรพงศ์ 1.94% นาย มิน เธียรวร 1.05%

โบรกฯคาดว่ากำไรสุทธิในปี 2567-2568 นั้นจะอยู่ที่ราว 3,723 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% และที่ 4,274 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% ตามลำดับ โดยคาดว่าจะเป็นผลจากจำนวนยอดผู้โดยสารในรถไฟฟ้าที่จะเพิ่มขึ้นอย่างมากจากการเปิดตัวของโครงการห้างสรรพสินค้า และโครงการ mixed-use

อย่างไรก็ตาม แม้หุ้นเหล่านี้จะมีอัตราการเปลี่ยนแปลงกำไรสุทธิ ปี 66 สูงสุดใน SET100 และมีปัจจัยบวกหนุน แต่ในบางหลักทรัพย์ กลับมีผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปีที่ยังติดลบอยู่ ต้องติดตามกว่าจะพลิกกลับมาเป็นบวกได้หรือไม่?




กำลังโหลดความคิดเห็น