xs
xsm
sm
md
lg

TEGH อวดรายได้แตะ 1.2 หมื่นล้าน จ่ายปันผล 10 สต.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์




ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ อวดรายได้แตะ12,143 ล้านบาท กำไรสุทธิ 215 ล้านบาท ขณะที่บอร์ดใจดีสั่งจ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.10 บาท ฟากแม่ทัพหญิง “สินีนุช โกกนุทาภรณ์” ประเมินแนวโน้มผลงานปีนี้โตสวย ยอดขายยางแท่งมีลุ้นออลไทม์ไฮ พร้อมเดินหน้าผลักดันการเติบโตในทุกธุรกิจ ทั้งยางธรรมชาติ น้ำมันปาล์ม และพลังงานทดแทน


น.ส.สินีนุช โกกนุทาภรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TEGH ผู้ผลิตและจำหน่ายยางธรรมชาติ และน้ำมันปาล์มดิบรายใหญ่ในภาคตะวันออก และผู้นำด้านการผลิตพลังงานทดแทนและรับบริหารจัดการกากอินทรีย์แบบครบวงจรที่นำพลังงานสะอาดมาใช้ในกระบวนการผลิต เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานงวดปี 2566 (สิ้นสุด 31 ธันวาคม 2566) บริษัทมีรายได้ 12,143 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 215 ล้านบาท

โดยในปี 2566 กลุ่มบริษัทมีรายได้จากการขายสินค้าและการให้บริการ จำนวน 12,143 ล้านบาท เป็นรายได้จากธุรกิจผลิตและจำหน่ายยางธรรมชาติ จำนวน 10,093 ล้านบาท ธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบ จำนวน 1,907 ล้านบาท และธุรกิจพลังงานทดแทนและบริหารจัดการกากอินทรีย์ จำนวน 133 ล้านบาท

ปัจจัยที่สนับสนุนให้มีผลการดำเนินงานในระดับที่ดี เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจฟื้นตัว โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยางล้อ ทำให้ราคายางขายยางแท่งปรับตัวดีขึ้น ความต้องการสินค้าจากยุโรปและจีนกลับมาตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 รวมถึงมีการขยายตลาดไปประเทศอินเดียได้มากขึ้น อีกทั้งเรายังได้รับผลเชิงบวกจากการบังคับใช้กฎหมาย EUDR เนื่องจากเรามีการเตรียมความพร้อม และลูกค้าให้ความสนใจขอเจรจาทำสัญญาซื้อขายยางแท่งเกรด EUDR แล้วทั้งในโซนยุโรปและเอเชีย ซึ่งจะเริ่มส่งมอบในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2567 นี้

พร้อมกันนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2567 ได้มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานงวดวันที่ 1 มกราคม 2566 ถึง 31 ธันวาคม 2566 ในอัตราหุ้นละ 0.10 บาท โดยกำหนดวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 20 มีนาคม 2567 และจ่ายเงินปันผลวันที่ 24 พฤษภาคม 2567 ทั้งนี้จะต้องได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น ซึ่งมีกำหนดจัดประชุมในวันที่ 26 เมษายน 2567

สำหรับปี 2567 กลุ่มบริษัทมีแนวโน้มการดำเนินธุรกิจในทิศทางที่ดีต่อเนื่อง โดยเฉพาะธุรกิจผลิตและจำหน่ายยางแท่งมีโอกาสที่ยอดขายจะทำสถิติสูงสุดใหม่ (All Time High) จากปริมาณขายที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 20% และราคายางธรรมชาติปรับตัวสูงขึ้น โดยที่ผ่านมา กลุ่มบริษัท TEGH มียอดการผลิตและจำหน่ายยางแท่งเพิ่มขึ้นต่อเนื่องมาโดยตลอด ซึ่งในปี 2566 ที่ผ่านมา มียอดขายยางแท่ง 197,000 ตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ที่ 5,700 ตัน คิดเป็นเพิ่มขึ้นประมาณ 3%

ส่วนธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบ มีแนวโน้มที่ดีหลังจากปรับปรุงกระบวนการผลิต ซ่อมบำรุงเครื่องจักร ติดตั้งหม้อต้มไอน้ำ (Boiler) ลูกใหม่ ทำให้ประสิทธิภาพการผลิตดีขึ้น และจะติดตั้งหม้อนึ่งปาล์ม (Sterilizer) เพิ่มเติม ซึ่งจะทำให้กำลังการผลิตน้ำมันปาล์มดิบเพิ่มขึ้นอีก 50% ภายในปี 2569 ด้านธุรกิจด้านพลังงานทดแทนและบริหารจัดการกากอินทรีย์ จะรับรู้รายได้จากการขยายกำลังการผลิตก๊าซชีวภาพเฟสที่ 1 ได้ภายในไตรมาสแรก และคาดว่าเริ่ม COD โครงการขยายกำลังการผลิตก๊าซชีวภาพเฟสที่ 2 ได้ในปีนี้

“TEGH มีผลการดำเนินงานเติบโตต่อเนื่อง และในปี 2567 บริษัทยังคงมุ่งมั่นพัฒนาองค์กรให้เติบโต สร้างผลตอบแทนที่เหมาะสมให้นักลงทุน ควบคู่กับการดูแลชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม พร้อมตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เพื่อก้าวสู่การเป็นองค์กรที่มีความเป็นกลางทาง (Carbon Neutrality) ในปี 2573” น.ส.สินีนุช กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น