หุ้น "เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์" พุ่งรับข่าว "พิธาน องค์โฆษิต" ซื้อหุ้น "เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์" 353,375,000 หุ้น หรือ 14.84% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วของ ONEE อีกทั้ง" วันทอง โฮลดิ้งส์" ที่นายพิธาน ถือหุ้น 100% อีก 238,125,000 หุ้น หรือ 10.00% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วของ ONEE ส่งผลให้พิธาน ถือหุ้นใหญ่ 24.84% ของทุนชำระแล้ว ONEE ทื่มีอยู่ 4,762,500,000 บาท
ราคาหุ้นบริษัท เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ONEE พุ่งรับข่าว "พิธาน องค์โฆษิต" ขึ้นแท่นผู้ถือหุ้นใหญ่ เปิดตลาดราคาหุ้น ONEE อยู่ที่ 4.88 บาท เพิ่มจากราคาปิดวันก่อนที่ 4.64 บาท และเวลา 11.10 น. หุ้น ONEE อยู่ที่ 5.15 บาท เพิ่มขึ้น 0.51 บาท หรือ 10.99% มูลค่า 355.45 ล้านบาท
นายอรรณพ เสนะสุทธิพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่การเงินกลุ่ม บริษัท เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ONEE เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากแพทย์หญิงปรมาภรณ์ ปราสาททองโอสถ ในการขายหุ้นของบริษัททั้งหมดจำนวนทั้งสิ้น 596,500,000 หุ้น หรือคิดเป็น 25.05% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วของบริษัท ทำให้แพทย์หญิงปรมาภรณ์ ปราสาททองโอสถ ไม่เหลือการถือครองหุ้น ONEE
โดยการซื้อหุ้นครั้งนี้เป็นการซื้อขายผ่านระบบการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยบนกระดานรายใหญ่ (Big Lot Board) ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2567 ให้แก่ บุคคลดังต่อไปนี้
1.นายพิธาน องค์โฆษิต 353,375,000 หุ้น คิดเป็น 14.84% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วของบริษัท 2.บริษัท วันทอง โฮลดิ้งส์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่นายพิธาน ถือหุ้น 100% จำนวน 238,125,000 หุ้น คิดเป็น 10.00% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วของบริษัท
3.นายถกลเกียรติ วีรวรรณ 1,666,800 หุ้น คิดเป็น 0.07% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วของบริษัท 4.นางรศนาภรณ์ วีรวรรณ 1,666,600 หุ้น คิดเป็น 0.07% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วของบริษัท และ 5.น.ส.อมรพิมล วีรวรรณ 1,666,600 หุ้น คิดเป็น 0.07% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วของบริษัท
โดยการซื้อขายส่งผลให้โครงสร้างการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทเปลี่ยนแปลงไปดังนี้
กลุ่มนายพิธาน จะถือหุ้นจำนวน 591,500,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 24.84% แบ่งเป็น นายพิธาน องค์โฆษิต จะถือหุ้นจำนวน 353,375,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 14.84% และบริษัท วันทอง โฮลดิ้งส์ จำกัด จะถือหุ้นจำนวน 238,125,000 หุ้น คิดเป็น 10%
ตามด้วย นายถกลเกียรติ วีรวรรณ จะถือหุ้นจำนวน 105,738,800 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 4.44% นางรศนาภรณ์วีรวรรณ จะถือหุ้นจำนวน 9,147,200 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 0.38% และ น.ส.อมรพิมล วีรวรรณ จะถือหุ้นจำนวน 7,910,600 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 0.33%
นอกจากนี้ ในเวลาต่อมาบริษัทได้รับแจ้งจากบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GRAMMY ว่า GRAMMY ได้เข้าลงนามในสัญญาให้สิทธิในการซื้อหุ้น (Call Option) กับนายพิธาน โดยนายพิธาน ให้สิทธิแก่ GRAMMY ในการซื้อหุ้นทั้งหมดในวันทอง โฮล ดิ้งส์ ซึ่งเป็นบริษัทที่นายพิธาน ถือหุ้น 100% รวมเป็น 100,000 หุ้น คิดเป็น 100% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของวันทอง โฮลดิ้งส์ โดย GRAMMY มีหน้าที่ต้องรับโอนภาระหนี้เงินกู้ของวันทอง โฮลดิ้งส์ ที่มีต่อนายพิธานมาด้วย
ทั้งนี้ รายละเอียดของธุรกรรม Call Option ดังกล่าวปรากฏตามสารสนเทศรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ของแกรมมี่เกี่ยวกับการเข้าซื้อหุ้นทั้งหมดในวันทอง โฮลดิ้งส์ ฉบับลงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2567
สำหรับ นายพิธาน เป็นนักธุรกิจที่ลงทุนในหลากหลายธุรกิจโดยมุ่งเน้นธุรกิจที่มีโอกาสในการเติบโตและมีโอกาสในการต่อยอดกับ ธุรกิจอื่นๆ ของนายพิธาน การที่นายพิธาน เข้ามาเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทจะช่วยเพิ่มโอกาสในการต่อยอดทางธุรกิจของบริษัท และบริษัทขอเรียนว่าการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการถือหุ้นดังกล่าว ไม่มีผลต่อนโยบายการดำเนินธุรกิจของบริษัท และการได้มาซึ่งหุ้นของบริษัทของนายพิธาน ข้างต้นไม่มีผลทำให้นายพิธานมีหน้าที่ต้องทําคําเสนอซื้อหุ้นของบริษัทต่อผู้ถือหุ้นเป็นการทั่วไป (Tender Offer)
เนื่องจากกลุ่มนายพิธาน ถือหุ้นในบริษัทรวมกันไม่ถึงร้อยละ 25 ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัท