หุ้นปิดบวก 6.04 จุด ตอบรับมาตรการคุมเข้มของ ตลท.-นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์ แต่ยังระแวง Fund Flow โดยวันนี้เห็นแรงขายทำกำไรหุ้นกลุ่มที่ขึ้นมาก่อนหน้านี้ เช่น กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่ก่อนหน้านี้เก็งกำไรขึ้นมาเยอะแล้ว ซึ่งไม่แนะนำให้ไล่ซื้อหุ้นที่ขึ้นแรง แนะหุ้นที่มีผลประกอบการดี หุ้นเกี่ยวข้องการท่องเที่ยว การแพทย์ การบริโภคที่ได้รับผลดีจากการท่องเที่ยว
นายกิจพล ไพรไพศาลกิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ยูโอบีเคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า บรรยากาศตลาดหุ้นไทยเช้านี้ช่วงต้นภาคเช้าดีดตัวขึ้นตอบรับมาตรการของตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ยกระดับการกำกับดูแลการขายชอร์ต (short selling) และการใช้คอมพิวเตอร์ส่งคำสั่งซื้อขาย (program trading) พร้อมทั้งการปรับเพิ่มมาตรการการเปิดเผยข้อมูลแก่สาธารณชน เพื่อยกระดับการกำกับดูแลและเพิ่มความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ลงทุนทุกประเภท แต่ยังไม่เกิดทันที ต้องรอขั้นตอนรับฟังความคิดเห็น และเสนอสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
อย่างไรก็ดี ตลาดชะลอตัวในเวลาต่อมา เหตุนักลงทุนไม่แน่ใจว่าเม็ดเงินต่างชาติวานนี้ที่ซื้อสุทธิกว่า 6 พันล้านบาท จะเป็นการกลับมาของนักลงทุนต่างชาติจริงหรือไม่ หรือเป็น Cover short ที่ต่างชาติเปิด short ไว้ ทำให้นักลงทุนระมัดระวังการลงทุน สะท้อนดัชนี ยังไม่ผ่านระดับ 1,400 จุดได้ โดยวันนี้เห็นแรงขายทำกำไรหุ้นกลุ่มที่ขึ้นมาก่อนหน้านี้ เช่น กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่ก่อนหน้านี้เก็งกำไรขึ้นมาเยอะแล้ว ซึ่งไม่แนะนำให้ไล่ซื้อหุ้นที่ขึ้นแรง แนะหุ้นที่มีผลประกอบการดี หุ้นเกี่ยวข้องการท่องเที่ยว การแพทย์ การบริโภคที่ได้รับผลดีจากการท่องเที่ยว
และในช่วงท้ายตลาดภาคเช้าดัชนีเด้งกลับมา หลังจากนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง แถลงวิสัยทัศน์ "IGNITE THAILAND : จุดพลัง รวมใจ ไทยต้องเป็นหนึ่ง" พร้อมประกาศยกไทยเป็นศูนย์กลางต่างๆ เช่น ศูนย์กลางการท่องเที่ยว Medical Hub ศูนย์กลางการบิน
ด้านภาวะตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,399.65 จุด บวก 6.04 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.43% มูลค่าซื้อขายราว 26,065 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นในช่วงบ่าย มองดัชนี SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1,390-1,400 จุด