เอเชีย กรีน เอนเนอจี อวดยอดขายถ่านหินปี 2566 ที่ 3.7 ล้านตัน หนุนรายได้รวมแตะ 13,239.2 ล้านบาท ลดลง 29.6% และมีกำไรสุทธิ 285.1 ล้านบาท บอร์ดไฟเขียวจ่ายปันผล 0.20 บาท เผยแผนปี 2567 ขยาย 4 กลุ่มธุรกิจ “ถ่านหิน-โลจิสติกส์-พลังงาน-ธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า” หนุนเป้ายอดขายทั้งปีแตะ 15,000 ล้านบาท
น.ส.ปณิตา ควรสถาพร รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) หรือ AGE ผู้จัดจำหน่ายถ่านหินบิทูมินัส (ถ่านหินสะอาด) และผู้ให้บริการด้านโลจิสติสก์แบบครบวงจรขนส่งทางน้ำ ทางบก ท่าเรือ คลังสินค้า เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานงวดปี 2566 บริษัทมีรายได้จากการขายและบริการ 13,239.2 ล้านบาท ลดลง 29.6% (YoY) โดยแบ่งเป็นรายได้จากการขายถ่านหินที่ 12,635.9 ล้านบาท ลดลง 30.6% (YoY) และมีกำไรสุทธิแตะระดับ 285.1 ล้านบาท โดยมีปริมาณการขายถ่านหินรวมในปี 2566 อยู่ที่ 3.7 ล้านตัน
โดยแบ่งเป็นปริมาณการขายถ่านหินในต่างประเทศที่ 0.24 ล้านตัน และปริมาณการขายถ่านหินในประเทศที่ 3.45 ล้านตัน
ขณะที่รายได้ธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์อยู่ที่ 1,789 ล้านบาท ลดลง 13.8% (YoY) มีสัดส่วนรายได้จากกลุ่มลูกค้าภายนอกอยู่ที่ 603 ล้านบาท ส่วนการให้บริการของกลุ่มบริษัทในเครือ AGE มีรายได้ที่ 1,185 ล้านบาท รองรับงานให้บริการขนส่งสินค้าเกษตร สินค้าอุตสาหกรรม โดยมีการให้บริการท่าเรือ บริการขนส่งทางแม่น้ำ บริการขนส่งทางรถบรรทุก บริการโกดัง และลานกองเก็บ
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติเสนอผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติการจ่ายปันผลงวด ปี 2566 (ม.ค.-ธ.ค.2566) ในอัตราหุ้นละ 0.20 บาท โดยวันกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) วันที่ 13 มีนาคม 2567 และวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 12 มีนาคม 2567 กำหนดดำเนินการจ่ายปันผลในวันที่ 15 พฤษภาคม 2567
ส่วนภาพรวมธุรกิจในปี 2567 บริษัทมุ่งมั่นสร้างอัตราการเติบโตทางธุรกิจให้มีรายได้เติบโตอย่างยั่งยืน เพิ่มเติมจากธุรกิจถ่านหิน ซึ่งเป็นธุรกิจหลัก โดยมุ่งเน้นหาโอกาสเพื่อการลงทุนใหม่ๆ ในธุรกิจที่สร้างมูลค่าเพิ่มให้บริษัท โดยปัจจุบันมีการจำแนกธุรกิจออกเป็น 4 ธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจถ่านหิน ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจพลังงานยั่งยืน และธุรกิจ Diversified Investments ซึ่งเป็นการกระจายความเสี่ยงด้านการลงทุน ที่เน้นลงทุนสู่การเติบโตแบบเชิงรุกในระยะยาว สำหรับแผนการขับเคลื่อนภายใต้กลุ่มธุรกิจจะหนุนให้ตั้งเป้าอัตราการเติบโตรายได้รวมของ AGE ในปีนี้ที่ 15,000 ล้านบาท
ธุรกิจถ่านหินในปีนี้บริษัทตั้งเป้าปริมาณยอดขายถ่านหินที่ระดับ 4.5 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ที่คาดว่าจะอยู่ที่ 4 ล้านตัน กลุ่มลูกค้าหลักจะเป็นลูกค้าในประเทศ เช่น กลุ่มอุตสาหกรรมโรงไฟฟ้า อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ กลุ่มสิ่งทอ กลุ่มอาหาร ส่วนตลาดในต่างประเทศนั้นเน้นขยายในประเทศเวียดนาม และประเทศกัมพูชา
ธุรกิจโลจิสติกส์ บริษัทยังคงเดินหน้าขยายการให้บริการด้านโลจิสติกส์ โดยเตรียมแผนใช้เทคโนโลยีเพิ่มประสิทธิภาพและพัฒนาการให้บริการ เพื่อขยายฐานลูกค้าภายนอกเพิ่ม โดยตั้งเป้าภายใน 2 ปี จะมีสัดส่วนการให้บริการจากลูกค้าภายนอกเพิ่มเป็น 50% จากปัจจุบันอยู่ที่ 30% โดยรองรับงานให้บริการขนส่ง ทั้งสินค้าเกษตร และสินค้าอุตสาหกรรม โดยมีการให้บริการท่าเรือ บริการขนส่งทางแม่น้ำ บริการขนส่งทางรถบรรทุก บริการโกดัง และลานกองเก็บ โดยปัจจุบันท่าเรือของบริษัทได้ผ่าน EIA (Environmental Impact Assessment) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งแสดงถึงการให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อม และชุมชนโดยรอบได้ ครบทุกมิติ
ธุรกิจพลังงานยั่งยืน (Sustainable Energy) บริษัทลงทุนในธุรกิจผลิตและจำหน่ายเชื้อเพลิงจากขยะ (RDF) ภายใต้บริษัทย่อย Green RDF โดยล่าสุดในเดือนกุมภาพันธ์นี้ จะดำเนินการผลิต (COD) ส่วนขยายเพิ่มเติมอีก 3,000 ตันต่อเดือน ส่งผลให้ทั้งปีมีกำลังผลิต RDF เฉลี่ยอยู่ที่ 36,000 ตัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีปริมาณการขายเฉลี่ยอยู่ที่ 10,000 ตัน ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมา AGE ได้เข้าไปลงทุนใน บมจ.คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ “QTC” ในสัดส่วน 23.92% เพื่อเป็นการสร้างโอกาสและการต่อยอดด้านการลงทุนในธุรกิจพลังงานในอนาคต เนื่องจาก QTC ดำเนินธุรกิจทั้งหม้อแปลงไฟฟ้า ธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาร์ฟาร์ม) และธุรกิจ EV ซึ่งแผนการลงทุนดังกล่าวถือเป็นธุรกิจสร้างมูลค่าเพิ่ม ภายใต้รูปแบบการลงทุน เพื่อกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจ โดย AGE จะรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากการเข้าไปลงทุนต่อเนื่องในระยะยาว
ธุรกิจ Human Solutions (Diversified Investments) ภายใต้บริษัทย่อย “เอจีอี เวนเจอร์ หรือ AGEV” (เดิมเอจีอี สีสซิ่ง) ในการดำเนินธุรกิจที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ เช่น ธุรกิจดีลเลอร์ขายรถไฟฟ้า EV โดยมีแผนจัดตั้งบริษัท เอจีอี ออโต้ แกลเลอรี่ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง AGEV และกลุ่มออโต้ แกลเอลรี่ กรุ๊ป โดยคุณธรรมรัตน์ โพธิ์ใบกุล และธุรกิจให้เช่ารถไฟฟ้า ซึ่งบริษัทมีแผนจัดตั้งบริษัท เอจีอี อีวี พลัส จำกัด เข้ามาดำเนินกิจการแผนการลงทุนในกลุ่มรถพลังงานไฟฟ้า (EV) สำหรับการปล่อยเช่าให้กลุ่มลูกค้าที่สนใจ เนื่องจากมองว่าตลาดรถไฟฟ้าในอนาคตยังมีโอกาสเติบโตได้สูง
AGE ให้ความสำคัญในการดำเนินธุรกิจ โดยยึดหลักแนวคิดการลงทุนที่คำนึงถึงการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล “ESG” พร้อมทั้งตั้งเป้าการลดการปล่อยคาร์บอนจากกิจการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง โดยมีแผนติดตั้ง Solar Roof บนหลังคาโกดังคัดแยกสินค้าที่ อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา เพิ่มเติม จากปัจจุบันที่มีอยู่แล้ว 554 กิกะวัตต์ ซึ่งจะลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกประเภทที่ 2 รวมทั้งศึกษาการเปลี่ยนรถบรรทุก และเครื่องมือหนักเป็นรถไฟฟ้า เป็นต้น