ในโลกการเงินที่มีความไม่แน่นอนของตลาด นักลงทุนเชิงอนุรักษ์นิยมได้ใช้ปัญญาประดิษฐ์หรือ Ai ในการขอคำแนะนำการจัดสรรพอร์ตโฟลิโอเพื่อการลงทุนที่ดี หวังช่วยป้องกันความเสี่ยง และเพิ่มพูนผลตอบแทนของเงินลงทุนในอนาคต
จากการเปิดเผยของ Finbold ระบุถึงกระแสความนิยมของนักลงทุน และผู้ใช้คอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ที่หันมาเน้นใช้ปัญญาประดิษฐ์ช่วยวางแผนการลงทุนเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะการใช้ ChatGPT จำลองพอร์ตโฟลิโอสำหรับโปรไฟล์การลงทุน ซึ่งในการทดลองนี้มีการกำหนด API สำหรับ GPT-4 Turbo ชื่อ NanoGPTซึ่งอนุญาตให้ชำระเงินต่อการแจ้งเตือนโดยใช้สกุลเงินดิจิทัล ในเงื่อนไของค์ประกอบที่กำหนดขึ้นเพื่อให้ AI วิเคราะห์ปัจจัยต่างๆ สอดคล้องกับหลักการของนักลงทุนในรูปแบบอนุรักษ์นิยม ได้แก่ บริหารความเสี่ยงอย่างเหมาะสม การรักษาเงินทุนตั้งต้นติดลบน้อยที่สุด สร้างรายได้ผลตอบแทนอย่างยั่งยืนในระดับมั่นคง และรักษาการเติบโตของพอร์ตการลงทุนในระยะยาว
พอร์ตโฟลิโอที่ดีสำหรับนักลงทุนแบบอนุรักษ์นิยม
วาระสำคัญที่สุดสำหรับนักลงทุนแบบอนุรักษ์นิยมคือ หลักทรัพย์ที่มีตราสารหนี้ ซึ่งถือหุ้น 60-70% ของพอร์ตการลงทุน ChatGPT ยึดต้นแบบจากเงื่อนไขส่วนนี้ด้วยพันธบัตรรัฐบาลคิดเป็นสัดส่วน 30-40% ของเงินลงทุนทั้งหมด หลักทรัพย์เหล่านี้กลายเป็นป้อมปราการป้องกันความผันผวน ซึ่งได้รับการยกย่องจากนักวิเคราะห์การลงทุน และพอร์ตโบรกเกอร์ซึ่งลงความเห็นพ้องกันในเรื่องความมั่นคงในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ
อย่างไรก็ตามในการกระจายความเสี่ยงนอกเหนือจากโจทย์เงื่อนไขที่กำหนดไว้ ยังได้ให้ AI วิเคราะห์ทางการเงิน AI เพิ่มขึ้นในการลงทุนนอกเหนือจากนี้ โดยวางระดับการลงทุนไปในรูปแบบผลตอบแทนของอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่ากลยุทธ์แบบที่จัดสรรไว้ 20-30% ซึ่งกำหนดเลือกเฉพาะผู้ที่มีอันดับเครดิตสเตอร์ลิงเท่านั้น นอกจากนี้ยังเพิ่มทางเลือกการลงทุนในพันธบัตรเทศบาลเฉพาะทางที่แนะนำไว้ที่ 5-10% ซึ่งช่วยเพิ่มความน่าสนใจสำหรับการช่วยลดหย่อนภาษีในบางรัฐ หรือบางประเทศ
“พันธบัตรให้ความมั่นคงและรายได้ ภายในหมวดหมู่นี้เป็นการผสมผสานระหว่างพันธบัตรรัฐบาล องค์กรคุณภาพสูง และพันธบัตรเทศบาลจะกระจายความเสี่ยงและสามารถใช้ประโยชน์จากการลดหย่อนภาษีที่แตกต่างกันได้”
อย่างไรก็ตามนักลงทุนแบบอนุรักษ์นิยม ไม่ได้ละทิ้งรูปแบบการลงทุนที่ดั้งเดิม โดยมีการจัดสรรในระดับปานกลาง 20-30% ซึ่งมีการใช้ ChatGPT ผสมผสานพอร์ตโฟลิโอเข้ากับหุ้นบลูชิป โดยเป็นกลุ่มการลงทุนแบบยั่งยืนในการจ่ายเงินปันผล ที่ยืนหยัดผ่านการทดสอบของกาลเวลาและการเปลี่ยนแปลงของตลาด ประกอบด้วย 15-20% ของเงินลงทุนทั้งหมด ซึ่งดึงดูดใจถึงรายได้และศักยภาพในการเติบโตเป็นสองเท่า
ขณะที่กองทุนตราสารทุนช่วยกระตุ้นการลงทุนเพิ่มอีก 5-10% ซึ่งกระจายออกไปมากขึ้นในขณะที่เน้นการลงทุนในกลุ่มที่เน้นเงินปันผล
“หุ้นโดยเฉพาะหุ้นที่จ่ายเงินปันผล จะถูกรวมไว้เพื่อให้เกิดการเติบโต อย่างไรก็ตาม พวกมันมีน้ำหนักน้อยกว่าพอร์ตการลงทุนเชิงรุก”
อย่างไรก็ดีแม้ว่าสินทรัพย์จริงจะถูกละเลยบ่อยครั้ง แต่ก็กลับเข้ามาอยู่ที่ 0-5% ของพอร์ตโฟลิโอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งสร้างสมดุลระหว่างความต้องการจ่ายเงินปันผล กับการแข็งค่าของเงินทุน อย่างไรก็ดีการใช้ปัญหาประดิษฐ์จำลองแบบพอร์ตการลงทุน ยังคงต้องมีความระมัดระวัง เนื่องจาก ChatGPT ตระหนักดีถึงความสลับซับซ้อนของสินทรัพย์เหล่านี้กับแนวโน้มของตลาด
ในบางครั้ง พอร์ตการลงทุนแบบอนุรักษ์นิยมก็ขัดแย้งกับสิ่งแปลกใหม่ ที่นี่ การลงทุนทางเลือก เช่นโลหะมีค่าเช่นทองคำหรือ แร่เงิน ซึ่งถือเป็นจุดเบื้องต้นในการเลือกลงทุนเพียง 0-5% เพื่อเป็นเกราะป้องกันเงินเฟ้อ และสำหรับตอนจบคือเน้นเงินสด จากภาวะสภาพคล่องรูปที่ดีและง่ายที่สุดซึ่งคิดเป็น 5%
ทั้งนี้ที่ปรึกษาการลงทุนแนะนำว่าควรปรับสมดุลของเงื่อนไขและข้อมูลดาต้าในการวิเคราะห์กับ AI อย่างสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดกับการลงทุนจากข้อมูลและเหตุการณ์ที่เปลี่ยนไป และปัจจัยทั้งบวกและลบที่เข้ากระทบ
