หลังรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่เผยแพร่เมื่อเช้าวานนี้ (วันที่ 13 กุมภาพันธ์) ส่งผลให้ ตัวเลข เงินเฟ้อพุ่งขึ้นสูงกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ โดยอยู่ที่ 3.1% เทียบกับ 2.9% ซึ่งทองคำเป็นหนึ่งในสินทรัพย์แรกๆ ที่ตอบสนองต่อกระแสข่าวดังกล่าว
จากการเปิดเผยของ finbold ระบุว่าในไม่กี่นาทีหลังจากการรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค หรือ CPI กลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ได้ลดลงอย่างรวดเร็ว โดยลดลงมากถึง 1.42% เมื่อถึงเวลาที่เผยแพร่รายงานตัวเลขดัชนี ซึ่งการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ทำให้ราคาทองคำลดลงต่ำกว่า 2,000 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 13 ธันวาคม 2566
Today's hotter than expected #CPI caused #gold to fall below $2K for the first time in 2024. But the news is actually bullish for gold, as it confirms that the #Fed wasn't able to raise interest rates high enough to stop #inflation from running out of control. The game is over.— Peter Schiff (@PeterSchiff) February 13, 2024
ขณะที่ต่อมา ปีเตอร์ ชิฟฟ์ นักลงทุน โบรกเกอร์ ผู้วิจารณ์ทางการเงิน นักวิทยุกระจายเสียง และนักค้าทองคำ ได้โพสต์ผ่าน X (ทวิตเตอร์เดิม) โดยเขาแสดงความคิดเห็นว่า แม้ว่า CPI ที่ร้อนแรงเกินคาดจะทำให้ทองคำร่วง แต่แท้จริงแล้วกลับก่อให้เกิดเหตุการณ์กระทิงสำหรับสินค้าโภคภัณฑ์
“ตามที่ยืนยัน ว่าเฟดไม่สามารถขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้สูงพอที่จะหยุดยั้งอัตราเงินเฟ้อจากมาตรการที่รัฐพยายามแก้ไข แต่ไม่สามารถควบคุมได้”
ขณะที่ย้อนกลับไปเมื่อสิบวันก่อนหน้านี้ ทองคำก็ร่วงลงอย่างกะทันหันเช่นกัน เนื่องจากรายงาน 'การจ้างงานนอกภาคเกษตร' ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดการเติบโตของงานมากกว่าที่คาดไว้อย่างมาก โดยทันทีหลังจากการเปิดตัวโลหะมีค่าอย่างทองคำ เงิน ก็เริ่มร่วงลงและลบกำไรที่เพิ่มขึ้นจากการปรับตัวขึ้น 4 วันก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ดีทองคำไม่ใช่สินทรัพย์เดียวที่ร่วงลงเมื่อมีการเปิดเผยตัวเลข CPI ในเดือนมกราคม อันที่จริงแล้ว การเปิดตลาดเมื่อวันอังคารมีการลดลงอย่างมีนัยสำคัญทั่วกระดาน โดยโลหะเงินซึ่งเป็นโลหะมีค่าอีกชนิดหนึ่งก็เริ่มร่วงลงเช่นเดียวกัน และร่วงลง 2.72% สู่ระดับ 22.04 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ขณะที่ Bitcoin ( BTC ) ซึ่งโดยทั่วไปถือเป็นคู่สกุลเงินดิจิทัลของทองคำ ได้ลดลงอย่างรวดเร็วในเช้าวันที่ 13 กุมภาพันธ์ และหลังจากการเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจเป็นเวลา 1 วันเหนือระดับ 50,000 ดอลลาร์ในวันจันทร์ก็ร่วงลง 2.63% สู่ระดับ 48,622 ดอลลาร์ ในเวลาไม่กี่ชั่วโมงต่อมา
ด้านหุ้นสหรัฐฯ เองก็ไม่รอดพ้นจากเหตุการณ์ดังกล่าว เนื่องจากดัชนีหุ้นหลักของตลาดทุนโลก 2 ดัชนี ได้แก่ S&P500 และ Nasdaq100 เปิดตลาดการซื้อขายเริ่มต้นวันใหม่ด้วยการปรับตัวดิ่งลดลงเป็นสีแดง ซึ่งล่าสุด ณ เวลาปัจจุบัน ดัชนีราคาแรกสูญเสียระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 5,000 และลดลง 1.34% และรายการหลังลดลง 1.43%
อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่า Nasdaq 100 ไม่เหมือนกับทองคำ เงิน Bitcoin และ S&P 500 โดยเปิดต่ำกว่าราคาปิดล่าสุดอย่างมีนัยสำคัญ แต่อยู่ในวิถีขาขึ้นโดยรวมในชั่วโมงแรกของการซื้อขาย