xs
xsm
sm
md
lg

TK คาดปี 67 สัดส่วนสินเชื่อต่างประเทศเพิ่มกว่า 40%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์




ฐิติกร เผยธุรกิจเช่าซื้อในประเทศแข่งขันสูง ส่งผลให้ภาครัฐต้องเข้ามากำกับดูแลควบคุมเข้มงวด และกำหนดเพดานดอกเบี้ยเช่าซื้อ ขณะตลาดเช่าซื้อต่างประเทศมีโอกาสเติบโตได้มากกว่า ผู้ประกอบการเช่าซื้อไทยจึงขยายธุรกิจไปหาโอกาสใหม่ ขณะ TK รุกตลาดต่างประเทศตั้งแต่ปี 2557 ปัจจุบันดำเนินธุรกิจเช่าซื้อใน สปป.ลาว และกัมพูชา คิดเป็น  1,500 ล้านบาท หรือ 38% ของยอดสินเชื่อ  คาดสัดส่วนสินเชื่อต่างประเทศขยับเพิ่มขึ้นกว่า 40% ในปี 2567

น.ส.ปฐมา พรประภา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) หรือ TK เปิดเผยว่า ในปี 2566 ที่ผ่านมาตลาดเช่าซื้อภาพรวมในประเทศมีการแข่งขันรุนแรง ในขณะที่ปัจจัยภายนอก ทั้งการเข้ามากำกับดูแลจากประกาศของ สคบ. เรื่องให้ธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์เป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา พ.ศ.2566 ในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งเริ่มมีผลบังคับในวันที่ 10 มกราคม 2566 และสภาวะเศรษฐกิจที่ขยายตัวลดลง จากผลกระทบที่เศรษฐกิจโลกชะลอตัว รวมทั้งอุปสงค์ในประเทศยังคงได้รับผลจากการท่องเที่ยวยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ รวมถึงภาคการผลิตที่ยังชะลอต่อเนื่อง หนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง สะท้อนได้จากยอดขายรถยนต์ในประเทศที่ยังหดตัวหลายเดือนติดต่อกัน และเงินเฟ้อพื้นฐานที่ปรับตัวสูงกว่ากรอบเงินเฟ้อของ ธปท. ส่งผลให้ผู้ประกอบการธุรกิจเช่าซื้อต่างต้องนำกลยุทธ์ธุรกิจและแผนการตลาดที่หลากหลายมาขับเคี่ยวกันตลอดปี

สำหรับ TK ในปี 2566 ที่ผ่านมา ใช้การดำเนินกลยุทธ์ธุรกิจในประเทศด้วยการปล่อยสินเชื่อด้วยความระมัดระวังและเข้มงวด ขนานไปกับการบริหารคุณภาพลูกหนี้ในพอร์ตเช่าซื้อเพื่อคงระดับหนี้เสีย รวมทั้งบริหารฐานทุนให้แข็งแรง เน้นการมีเงินสดเตรียมพร้อมเมื่อจังหวะเหมาะสมในการขยายตลาด นอกจากนี้ ยังใช้กลยุทธ์เดินหน้าขยายธุรกิจเช่าซื้อในต่างประเทศ ทั้งใน สปป.ลาว และกัมพูชา ด้วยความระมัดระวัง ให้สอดคล้องกับปัจจัยความเสี่ยงที่ TK ติดตามอย่างใกล้ชิดในแต่ละประเทศที่เข้าไปดำเนินงาน โดยมีมูลค่าพอร์ตเช่าซื้อ ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2566 ประมาณ 1,500 ล้านบาท หรือ 38% ของยอดสินเชื่อรวมของ TK

นโยบายการดำเนินธุรกิจในตลาดต่างประเทศของ TK ในปี 2567 คือจะเน้นคุณภาพลูกหนี้เป็นหลัก ทั้งใน สปป.ลาว และกัมพูชา พร้อมเตรียมรับมือกับการแข่งขันจากการเข้ามาของผู้ให้บริการสินเชื่อเพิ่มมากขึ้น โดยคาดการณ์ว่าจะสามารถเพิ่มสัดส่วนพอร์ตเช่าซื้อในต่างประเทศเพิ่มขึ้นกว่า 40% จาก สปป.ลาว และกัมพูชา ภายในสิ้นปี 2567

นายประพล พรประภา กรรมการและรองผู้จัดการ บริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) หรือ TK กล่าวว่า การขยายตลาดเช่าซื้อไปยังต่างประเทศนับเป็นการสร้างโอกาสเพิ่มรายได้ใหม่ให้ผู้ประกอบการเช่าซื้อ หรือ New S-Curve เพื่อกระจายพอร์ตเช่าซื้อ เหตุเพราะการแข่งขันของธุรกิจเช่าซื้อในประเทศเข้มข้น รวมทั้งมีหน่วยงานจากภาครัฐเข้ามากำกับดูแลเข้มงวด ด้วยการกำหนดเพดานดอกเบี้ย อีกทั้งยังจะมีโรดแมปที่ให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เข้ามากำกับดูแลธุรกิจเช่าซื้อ ซึ่งขณะนี้ยังคงต้องรอดูความชัดเจนในเรื่องดังกล่าวจาก ธปท. ทำให้ผู้ประกอบการเช่าซื้อมองว่าตลาดต่างประเทศมีโอกาสเติบโตได้มากกว่า อย่างไรก็ตาม การเข้าดำเนินธุรกิจเช่าซื้อในต่างประเทศมีหลักเกณฑ์ต่างๆ รวมถึงข้อกฎหมายและภาษีในการดำเนินธุรกิจเช่าซื้อในแต่ละประเทศที่แตกต่างกัน ซึ่งผู้ประกอบการทุกรายที่เข้าไปดำเนินงานต้องศึกษาและปฏิบัติตาม ทั้งนี้ TK ได้ขยายธุรกิจเช่าซื้อในประเทศที่กฎระเบียบเอื้ออำนวยกว่าประเทศไทย

TK เริ่มขยายธุรกิจเช่าซื้อไปตลาดต่างประเทศตั้งแต่ปี 2557 ปัจจุบันมีสาขาในต่างประเทศรวม 18 สาขา โดยมีสาขาใน สปป.ลาว จำนวน 6 แห่ง ได้แก่ เวียงจันทน์ หลวงพระบาง ปากเซ สะหวันนะเขต เชียงของ และอุดมไซ ครอบคลุมหัวเมืองและประชากรประมาณ 17.04 ล้านคน ซึ่งนับว่าครอบคลุมเกือบทุกเมือง บริษัทจึงไม่มีแผนที่จะขยายหรือเพิ่มสาขาในตลาดดังกล่าว โดยตั้งเป้าสินเชื่อใน สปป.ลาว ให้ทรงตัวประมาณ 130 ล้านบาท ส่วนในราชอาณาจักรกัมพูชา TK มีสาขาจำนวน 12 แห่ง ที่พนมเปญ เสียมเรียบ พระตะบอง สวายเรียง บันเตียเมียนเจย กำปงจาม กำปงสปือ กำโปด กำปงธม กำปงชนัง โพธิสัตว์ และตาแกว ตั้งเป้าเติบโตโดยเน้นคุณภาพลูกหนี้เป็นหลัก


กำลังโหลดความคิดเห็น