บล.หยวนต้า คาดงบ PTT ปี66 ทำได้แสนลบ. ส่วนโค้งสุดท้ายปี หรือไตรมาส 4/66 มีกำไรในกรอบ 1.4-2.1 หมื่นลบ. ระบุ ผลงานปี66 ขับเคลื่อนด้วยบริษัทลูก โดยเฉพาะธุรกิจโรงกลั่นและปิโตรฯ ที่ฟื้นตัว ส่วนกำไร OR ปี66 อยู่ที่ 1.1 หมื่นลบ. Q1/67 ทำได้ 2.6-2.8 พันลบ. แนะนำซื้อ ด้าน GSPC คาดปี66 พลิกเป็นกำไร ขณะที่ PTTGC แนวโน้มปี 67 ฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ จาก บล.หยวนต้า ประเมินว่า กำไรของ บมจ. ปตท. ( PTT) ในปี 2566 ขับเคลื่อนด้วยบริษัทลูก โดยประมาณการกำไรสุทธิปี 66 อยู่ที่ 1 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นประมาณ 12% จากการเติบโตของบริษัทลูกเป็นหลัก โดยเฉพาะธุรกิจโรงกลั่น -ปิโตรเคมี ที่ฟื้นตัว หลังจากขาดทุนอนุพันธ์ป้องกันความเสี่ยงลดลงอย่างมาก รวมถึงธุรกิจสถานีบริการน้ำมันได้ประโยชน์จากกำไรสต็อกน้ำมัน และธุรกิจโรงไฟฟ้ามีต้นทุนเชื้อเพลิงต่ำลง
ทั้งนี้ ธุรกิจก๊าซที่ PTT ดำเนินงานเองจะทำได้เพียงประคองตัว เพราะผลกระทบนโยบายปรับลด Tariff ค่าผ่านท่อเต็มปี (ตั้งแต่เดือนส.ค. 65), ราคาขายของโรงแยกก๊าซ (GSP) ลดลงตามโครงสร้างราคาที่อ้างอิงกับราคาปิโตรเคมี, การจำหน่าย NGV ยังขาดทุนสูง
โดยเฉพาะช่วงครึ่งแรกปี 66 จากผลกระทบนโยบายตรึงราคาของภาครัฐ, ต้นทุนก๊าซอยู่ระดับสูงจากการผลิตก๊าซในอ่าวไทยไม่เป็นไปตามแผน (Shortfall) ทำให้ PTT ต้องนำเข้า Asia LNG ที่มีราคาแพงเพื่อรองรับอุปสงค์ในประเทศ แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 41 บาท
OR กำไรปี 66 อยู่ที่ 1.1 หมื่นลบ. ส่วนโค้งแรกปี67 กำไร 2.6-2.8 พันลบ.
ส่วน บมจ.ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก (OR) บล.หยวนต้า ประเมินแนวโน้มกำไรปกติไตรมาส 4/66 ที่ 600 ล้านบาท แม้คาดปริมาณขายน้ำมันรวมขึ้นมาอยู่ที่ 6,950 ล้านลิตร ตามปัจจัยฤดูกาล หลังได้รับแรงกดดันจากค่าการตลาดน้ำมันที่คาดปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 0.70 บาทต่อลิตร หลังราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง ส่งผลให้บริษัทมีการบันทึกรายการ Stock Loss ในช่วงไตรมาส 4/66 และค่าใช้จ่าย SG&A ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น เป็น 8,528 ล้านบาท จากค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการส่งเสริมการขายและพนักงานที่เร่งขึ้นในช่วงปลายปี
ขณะที่เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สามารพลิกเป็นกำไรได้ เนื่องจากสถานการณ์อุปทานน้ำมันในประเทศไม่ตึงตัวเหมือนปีก่อน หากกำไรปกติออกมาใกล้เคียงคาด จะส่งผลให้กำไรปี 66 อยู่ที่ 11,413 ล้านบาท
ส่วนแนวโน้มกำไรไตรมาส 1/67 คาดจะฟื้นตัวมาอยู่ที่ระดับ 2,600-2,800 ล้านบาท จากปริมาณขายน้ำมันรวมที่มีแนวโน้มทรงตัวอยู่ในระดับ 6,800-7,000 ล้านลิตร ค่าการตลาดน้ำมันที่คาดฟื้นตัวกลับมาอยู่ที่ระดับ 1 บาทต่อลิตร เป็นต้น โดยคงประมาณการปี 67 ที่กำไร 12,026 ล้านบาท และคงราคาเป้าหมายที่ 20.10 บาทต่อหุ้น
คาดกำไร GPSC ปี66 อยู่ที่ 3.6 พันลบ. - PTTGC แนวโน้มปีนี้ฟื้นตัว
ด้าน บมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) หยวนต้า คาดว่าไตรมาส 4/66 มีกำไร 415 ล้านบาท พลิกเป็นกำไรจากช่วงเดียวกันปีก่อน ขาดทุน 435 ล้านบาท ส่วนกำไรทั้งปี 66 คาดอยู่ที่ 3,631 ล้านบาท ทั้งนี้ล่าสุดมีประเด็นข่าวว่าบริษัทโกลบอล รีนิวเอเบิล ซินเนอร์ยี่ หรือ GRSC ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ GPSC ถือหุ้น100% เข้าซื้อหุ้นสัดส่วน 50% ของบริษัทโกลบอล รีนิวเอเบิล เพาเวอร์ หรือ GRP จาก PTT มูลค่า 1,275 ล้านบาท มองเป็นบวกอ่อนๆ เพราะมูลค่าเข้าลงทุนไม่แพง,สามารถ Synergy ลดค่าใช้จ่ายช่วยให้GRP พลิกเป็นกำไรได้ สะท้อนว่าเครือ PTT จะสนับสนุน GPSC ในฐานะผู้นำธุรกิจพลังงานหมุนเวียนของกลุ่ม แนะนำซื้อ ราคาเหมาะสม 57 บาท
ส่วนแนวโน้มผลงาน บมจ. พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) มองว่าหากไตรมาส 4/66 เป็นไปตามคาด ผลประกอบการปี 66 จะมีกำไร 764 ล้านบาท ซึ่งแนวโน้มปี 67 คาดฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยช่วงไตรมาส 1/67 จะถูกกดดันจากนโยบาย Single Pool เงินปันผลงวดครึ่งหลังปี 66 ไม่สูง กรณี Single Pool ยืดเยื้อเกินกว่า 4 เดือนอาจกระทบกำไรเพิ่มเติม และเป็นความเสี่ยงถูก De-rating เพราะสูญเสียความได้เปรียบ Gas-based Olefins คงคำแนะนำเพียง TRADING ราคาเป้าหมาย 40 บาท