นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ที่ระดับ 35.30-35.90 บาท/ดอลลาร์ ส่วนกรอบเงินบาทวันนี้คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.55-35.75 บาท/ดอลลาร์ จากระดับเปิดเช้านี้ที่ (29 ม.ค.) 35.64 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าลงเล็กน้อยจากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้าที่ระดับ 35.62 บาทต่อดอลลาร์ โดยนับตั้งแต่ช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมา เงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ sideways (แกว่งตัวในกรอบ 35.52-35.67 บาทต่อดอลลาร์) โดยมีจังหวะแข็งค่าขึ้นหลังรายงานอัตราเงินเฟ้อ PCE สหรัฐฯ ล่าสุด ชะลอตัวลงต่อเนื่อง และในส่วนของอัตราเงินเฟ้อ Core PCE ออกมาต่ำกว่าคาด ทำให้เงินดอลลาร์ผันผวนอ่อนค่าลง อย่างไรก็ดี บรรยากาศในฝั่งตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ผู้เล่นในตลาดเริ่มไม่กล้าเปิดรับความเสี่ยงเพิ่มเติม หลังบางบริษัทอย่าง Tesla และ Intel รายงานผลประกอบการที่น่าผิดหวัง มีส่วนหนุนให้เงินดอลลาร์ทยอยแข็งค่าขึ้น กดดันทั้งราคาทองคำและเงินบาท ทั้งนี้ การเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์ในตลาดการเงินอาจเป็นไปอย่างจำกัดในช่วงนี้ จนกว่าตลาดจะรับรู้ผลการประชุมเฟดในช่วงเช้าตรู่ของวันพฤหัสฯ ตามเวลาในประเทศไทย
สัปดาห์ที่ผ่านมา รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ส่วนใหญ่ออกมาดีกว่าคาด ทำให้ผู้เล่นในตลาดต่างลดความคาดหวังต่อแนวโน้มเฟดลดดอกเบี้ย “เร็วและลึก” ส่วนในสัปดาห์นี้ เรามองว่า ควรระวังความผันผวนในช่วงตลาดทยอยรับรู้ผลการประชุมเฟดและธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) รวมถึงในช่วงตลาดทยอยรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยเฉพาะข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ
สำหรับแนวโน้มของค่าเงินบาท เรามองว่า ทิศทางเงินบาทจะขึ้นกับแนวโน้มเงินดอลลาร์และราคาทองคำ ซึ่งจะผันผวนไปตามการปรับมุมมองของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟด ทั้งนี้ เราประเมินว่า โมเมนตัมการอ่อนค่าของเงินบาทได้ชะลอลงบ้าง แต่เงินบาทยังไม่สามารถกลับมาแข็งค่าขึ้นได้ จนกว่าตลาดจะกลับมาเชื่อว่าเฟดอาจลดดอกเบี้ยได้ในการประชุมเดือนมีนาคม หรือบรรดานักลงทุนต่างชาติกลับเข้ามาซื้อสินทรัพย์ไทย
ในส่วนเงินดอลลาร์นั้น เรามองว่าเงินดอลลาร์อาจผันผวนสูง โดยทิศทางเงินดอลลาร์จะขึ้นกับการส่งสัญญาณต่อแนวโน้มดอกเบี้ยของเฟด รวมถึงรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งเงินดอลลาร์อาจอ่อนค่าลงได้หากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ไม่ได้สะท้อนภาพเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและเฟดเริ่มส่งสัญญาณพร้อมใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้น