xs
xsm
sm
md
lg

LH ลุยขึ้น 11 โครงการอสังหาฯ 3 หมื่นล้าน ออกหุ้นกู้ล็อตใหญ่-ดีลแบงก์ดูแลลูกค้าลดรีเจกต์เรต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ พี่ใหญ่ในวงการคาดหวังอสังหาฯ จะดีขึ้น หลังรัฐบาลเข้ามาทำงานได้เต็มที่ มีนโยบายดึงต่างชาติเข้ามาลงทุน ท่องเที่ยวดีขึ้น หนุนใช้จ่ายมากขึ้น ดอกเบี้ยครึ่งหลังมีสัญญาณลดลง พร้อมเดินหน้าบริหารขยายพอร์ตลงทุน ตามกลยุทธ์ Asset Location ทั้งธุรกิจโรงแรม ห้างสรรพสินค้า อพาร์ตเมนต์ในสหรัฐฯ วางเป้ายอดขายปีนี้ 31,000 ล้านบาท รายได้ 28,000 ล้านบาท หนุนด้วยธุรกิจอสังหาฯ เพื่อเช่า ประกาศลงทุนเปิด 11 โครงการใหม่กว่า 30,000 ล้านบาท เน้นตลาดบ้านเดี่ยว ดันพอร์ตโครงการในมือ 84 โครงการ มูลค่า 98,550 ล้านบาท มั่นใจธุรกิจคอนโดฯ ได้รับอานิสงส์ดอกเบี้ยขาลง หนุนกลุ่มไม่เกิน 3 ล้านบาท ออกหุ้นกู้ 16,000 ล้านบาท รองรับดีลไถ่ถอน เจรจาแบงก์รองรับสินเชื่อพัฒนาโครงการ

นายนพร สุนทรจิตต์เจริญ ประธานคณะกรรมการ บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2567 ว่า ในปีที่ผ่านมา รัฐบาลใหม่เข้ามาทำงานได้ในระยะสั้นๆประมาณ 2-3 เดือน ซึ่งยังไม่เห็นผลมาก แต่ในปี 67 ถ้ามองจากภาครัฐแล้วมีหลายอย่างที่จะมีการ Investment โครงการต่างๆ เช่น ดิจิทัลวอลเล็ต การเฟ้นหานักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในประเทศมากขึ้น เป็นคาดหวังของภาคธุรกิจ รวมถึงทิศทางของอัตราดอกเบี้ย ทางธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ออกมาระบุที่จะชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ย และมีแนวโน้มที่จะปรับตัวลง อย่างเร็วอยู่ในไตรมาส 2 ของปีนี้ หรืออย่างช้าในครึ่งหลังของปีนี้ ซึ่งเราต้องมาเดาใจว่าอัตราดอกเบี้ยภายในประเทศจะเป็นอย่างไร

"ดูแล้วความคาดหวัง เดาว่าภาพอสังหาริมทรัพย์จะดีขึ้น หลังจากถูก depress มาเป็นเวลานาน คาดหวังจะมีการใช้จ่าย หรือ spending ที่ดีขึ้น เราเห็นนักท่องเที่ยวเข้ามา 25 ล้านคนมากกว่าที่เราคิด ทั้งๆ ที่นักท่องเที่ยวจากประเทศจีนยังไม่ได้เข้ามา ส่งผลดีอย่างมากต่อธุรกิจโรงแรมของ LH มีอัตราการเข้าพักทั้งโรงแรมในกรุงเทพฯ และพัทยา สูงถึงร้อยละ 90 เป็นตัวเลขที่ดีกลับมาก่อนเกิดโควิด-19 ดูแล้วเทรนด์ของธุรกิจโรงแรมค่อนข้างดีขึ้น แต่ที่ยังเป็นห่วงคือ หนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับที่สูง และธนาคารพาณิชย์มีความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ ทำให้เราต้องมาดูว่า ผลจากความเข้มงวดเป็นอย่างไร ซึ่งโครงการที่อยู่อาศัยของ LH มีอัตราการปฏิเสธสินเชื่อที่สูง จากเดิมที่ไม่เกินร้อยละ 10 แต่ตอนนี้ Over เกินร้อยละ 10 บางเวลารีเจกต์เรตสูงถึงร้อยละ 20 ทำให้เราต้องมาประเมินศักยภาพของลูกค้า ประสานการทำงานกับธนาคารมากขึ้น ซึ่งทาง LH มีโปรดักต์ในกลุ่มราคา 3-5 ล้านบาท ที่ผู้ซื้อกลุ่มนี้ ต้องพึ่งพาสินเชื่อกับธนาคาร"

สำหรับกลยุทธ์ในการรับมือปัจจัยเสี่ยงที่นอกเหนือการควบคุม เช่น สงครามนั้น การจะมาพิจารณาเรื่องเศรษฐกิจมหาภาคเป็นการมองในภาพกว้างเท่านั้น แต่ต้องกลับมาดูภายในประเทศ ดูองค์กร และกลุ่มลูกค้าเป็นสิ่งที่สำคัญ ซึ่งในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา กลุ่ม LH ได้มีการปรับ Asset Location มากขึ้น การกระจายการลงทุน หรือการจัดพอร์ตการลงทุน โดยให้น้ำหนัก Investment มากขึ้น เริ่มก่อสร้างโรงแรมใหม่เพิ่ม 3-4 แห่ง มีห้างสรรพสินค้า มองหาการลงทุนโรงแรมในสหรัฐฯ ได้เพิ่มขึ้นหรือไม่ ซึ่งทางผู้บริหารพยายามที่จะจัดโครงสร้างรายได้ของ LH ให้คุ้มค่ากับเงินลงทุนและสร้างผลตอบแทนให้ผู้ถือหุ้น โดยปัจจุบันรายได้จะมาจาก 1.ธุรกิจหลักการพัฒนาและขายอสังหาริมทรัพย์ 2.รายได้จากอสังหาฯ เพื่อเช่า เช่น โรงแรม อพาร์ตเมนต์ และ 3.ธุรกิจInvestment

ในปีนี้ ทาง LH คาดหวังเป้ายอดขาย (Bookings) ไว้ที่ 31,000 ล้านบาท จะมาจากรายได้ธุรกิจแนวราบทั้งหมด และเป้าหมายรับรู้รายได้จากยอดโอนกรรมสิทธิ์ 28,000 ล้านบาท เป็นตัวเลขที่จะสูงกว่าปีที่ผ่านมา โดยปี 66 มียอดขายอยู่ที่ 30,000 ล้านบาท เนื่องจากได้รับผลบวกจากการขายโครงการคอนโดมิเนียม วันเวลา ณ เจ้าพระยา ส่วนรายได้จากอสังหาริมทรัพย์เพื่อเช่าตั้งเป้าหมายไว้ที่ 8,540 ล้านบาท

นันทวัน PRIVATE POOL VILLA พระราม 9-กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่  บ้านหรู ราคาเฉลี่ย 96 ลบ.ต่อหลัง
ลุยปีมังกรทอง เปิด 11 โครงการ กว่า 3 หมื่นล้านบาท

นายวัชริน กสิณฤกษ์ กรรมการผู้จัดการสายงานปฏิบัติการ โครงการบ้านจัดสรร LH กล่าวว่า ในแผนงานปีนี้ทาง LH จะพัฒนาโครงการใหม่ 11 โครงการ มูลค่ารวม 30,200 ล้านบาท ลดลง 30% เนื่องจากในปี 66 มีการเปิดโครงการ วันเวลา ณ เจ้าพระยา มีมูลค่า 15,000 ล้านบาท หากเปรียบเทียบเฉพาะโครงการแนวราบ มูลค่าเปิดโครงการโต 6%

ส่งผลให้มีโครงการที่ต้องดำเนินการรวม 84 โครงการ มูลค่า 98,550 ล้านบาท ให้น้ำหนักกับสินค้าแนวราบ 77 โครงการ มูลค่า 82,550 ล้านบาท และคอนโดฯ 7 โครงการ มูลค่า 16,000 ล้านบาท โครงการแนวราบที่เปิดตัว จะมีระดับราคาตั้งแต่ 2.9 ล้านบาท (ทาวน์เฮาส์) ไปจนถึงบ้านเดี่ยวระดับราคเฉลี่ย 96 ล้านบาท ในโครงการ นันทวัน PRIVATE
POOL VILLA พระราม 9-กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ เป็นต้น


เน้นบริหารสต๊อกคอนโดฯ พร้อมขายกว่า 16,000 ล้านบาท 

นายโชคชัย วลิตวรางค์กูร กรรมการผู้จัดการสายงานปฏิบัติการ โครงการอาคารชุด LH กล่าวว่า ในปี 2567 ปัจจัยที่จะส่งผลบวกต่อตลาดอสังหาฯ คือ อัตราดอกเบี้ยที่คาดว่าจะมีการทยอยปรับลดในช่วงครึ่งหลังของปี  และมาตรการของภาครัฐที่ขยายเวลาการลดค่าธรรมเนียมโอน-จดจำนอง ออกไปอีก 1 ปี ซึ่งจะส่งผลดีต่อคอนโดฯ ในระดับราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท โดยบริษัทมีแบรนด์  The Key เป็นสินค้าคอนโดมิเนียมในระดับราคาดังกล่าว ซึ่งโครงการที่เปิดขายอยู่ในปัจจุบัน คือ The Key MRT เพชรเกษม 48 เป็นคอนโดมิเนียมทำเลติดรถไฟฟ้า สายสีน้ำเงิน

ปัจจุบัน บริษัทมีสินค้าคอนโดมิเนียมในมือพร้อมขายทั้งหมด 7 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 16,000 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดฯ พร้อมอยู่ มูลค่า 6,000 ล้านบาท และอีก 10,000 ล้านบาท เป็นส่วนของโครงการ วันเวลา ณ เจ้าพระยา จึงยังไม่มีแผนเปิดโครงการใหม่ในปีนี้ โดยตั้งเป้ายอดขายคอนโดฯ ไว้ที่ 5,500 ล้านบาท และยอดโอนที่ 2,000 ล้านบาท  



ออกหุ้นกู้-เปิดวงเงินแบงก์ บริหารต้นทุนการเงิน

นายวิทย์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการสายงานสนับสนุน LH กล่าวว่า บริษัทมีแผนที่จะออกหุ้นกู้เพื่อรองรับการไถ่ถอนมูลค่า 16,000 ล้านบาท (ปัจจุบันบริษัทมีหุ้นกู้รวม 46,000-48,000 ล้านบาท) จะมีการถั่วเฉลี่ยอัตราดอกเบี้ยในเช่นอายุ 2 ปี 2 ปีครึ่ง และ 3 ปี เพื่อบริหารต้นทุนโดยคาดว่าอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนจะยังคงอยู่ในระดับใกล้เคียง 1 ซึ่งลดลงจาก ณ สิ้นปี 2566 โดยบริษัทได้เตรียมงบลงทุนไว้ทั้งหมดประมาณ 11,500 ล้านบาท ประกอบด้วย งบสำหรับการซื้อที่ดินเพื่อการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย 5,000 ล้านบาท งบลงทุนด้านอสังหาฯ เพื่อการให้เช่า 6,500 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังได้เตรียมขอวงเงินในการพัฒนาโครงการกับธนาคาร วงเงิน 5,000-6,000 ล้านบาท

ปัจจุบัน บริษัทมีโครงการซึ่งก่อให้เกิดรายได้ค่าเช่า ทั้งที่ดำเนินการแล้วและอยู่ระหว่างพัฒนาทั้งหมด 16 โครงการ ดำเนินการโดยบริษัท LHMH 12 โครงการ และบริษัท LH USA 4 โครงการ และมีแผนที่จะขายศูนย์การค้า 1 แห่งเข้ากองทรัสต์

"ภาพรวมอสังหาฯ เพื่อเช่าปี 2566 คาดว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 70 และร้อยละ 100 ตามลำดับจากปีก่อน เนื่องมาจากการกลับมาของนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศซึ่งเป็นปัจจัยที่ส่งผลดีต่อธุรกิจอสังหาฯ เพื่อเช่าของบริษัทโดยตรง"
กำลังโหลดความคิดเห็น