xs
xsm
sm
md
lg

สัมมากร มั่นใจปี 67 ยอดขายโต 20% ขึ้น 4 โครงการแนวราบ โฟกัสกลุ่มลักชัวรี-อัปสเกล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สัมมากร เผยกลยุทธ์ทางการตลาดปี 67 มั่นใจสร้างยอดขายโต 20% ตอกย้ำแนวคิด "บ้านที่หลับสบาย" ผ่านทุกช่องทางการสื่อสาร ดันแคมเปญใหม่ๆ บวกความคิดสร้างสรรค์เต็มสูบ สร้างภาพจำและดีเอ็นเอของแบรนด์ในใจผู้บริโภค เร่งดีมานด์ตลอดปี เปิดเกมบุกตลาดบ้านเดี่ยว ปักธงกวาดยอดในเซกเมนต์ลักชัวรีและอัปสเกล ตอบโจทย์ทุกความต้องการบ้านแนวราบ ของกลุ่มลูกค้าบ้านหลังแรก และกลุ่มซื้อบ้านเพื่อขยายครอบครัวทุกมิติ แม้จะมีปัจจัยทางเศรษฐกิจที่อาจจะส่งผลกระทบ ต่อยอดขาย แต่เชื่อว่าตลาดอสังหาฯ ยังไปได้

นายณพน เจนธรรมนุกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท สัมมากร จำกัด (มหาชน) ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาโครงการบ้านคุณภาพมากว่า 54 ปี เปิดเผยว่าในปี 2567 ผู้บริโภคยังคงให้ความสนใจกับบ้านแนวราบ ซึ่งเป็นผลมาจากพฤติกรรมการทำงานแบบ Remote Work มากขึ้น ทำให้สามารถเลือกทำเลที่อยู่อาศัยในพื้นที่ไหนก็ได้ และยังได้พื้นที่ในการทำกิจกรรมต่างๆ ที่หลากหลายได้มากขึ้น

อย่างไรก็ดีผู้บริโภคยังคงให้ความสำคัญกับคุณภาพการก่อสร้าง และการดีไซน์ฟังก์ชันของบ้านให้ปรับเปลี่ยนแต่ละห้องให้เป็นพื้นที่อเนกประสงค์มากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่สัมมากรให้ความสำคัญมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งจากพฤติกรรมผู้บริโภคข้างต้น ทำให้สัมมากรมุ่งเน้นการพัฒนา และเปิดโครงการบ้านเดี่ยวเพิ่มเติม ภายใต้แนวคิดบ้านที่หลับสบาย ซึ่งเริ่มตั้งแต่การหาทำเลที่เหมาะสมกับการอยู่อาศัย การเดินทางสะดวก การออกแบบที่แก้ปัญหาการอยู่อาศัยของคนไทย เช่น เรื่องอากาศถ่ายเทและตำแหน่งของบ้านเพราะเป็นเมืองร้อน ซึ่งเราให้ความสำคัญและใส่ใจในทุกรายละเอียด รวมถึงการสร้างฟังก์ชันให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของเเต่ละเซกเมนต์ นอกจากนี้ ยังเน้นขยายธุรกิจพื้นที่เช่า ซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกิจที่สำคัญของสัมมากรควบคู่กับการพัฒนาโครงการบ้านอีกด้วย

โครงการบ้านต่างๆ ของสัมมากรในปีนี้ จะมุ่งทำตลาดอย่างเข้มข้นในกลุ่มลูกค้าบ้านอัปสเกล คือ ผู้ซื้อบ้านหลังแรก และผู้ที่ซื้อบ้าน เพื่อขยายครอบครัวเป็นหลัก ทั้งบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด เช่น โครงการมิตติ และอนาพนา ราคา 5-15 ล้านบาทในโซนชานเมืองและปริมณฑล พร้อมๆ กับเน้นเซกเมนต์ตลาดลูกค้าบ้านลักชัวรี ซึ่งเป็นผลต่อเนื่องจากผลตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากการเปิดโครงการบ้านลักชัวรี 2 โครงการในปีที่ผ่านมา

“ภาพรวมตลาดอสังหาฯ ในกรุงเทพ และปริมณฑลในปีที่ผ่านมาถือว่ายังไม่ดีเท่าที่ควร โดยหดตัวลงจากปีที่แล้ว ในอัตราร้อยละ 3 ส่วนบ้านเดี่ยวและทาว์นโฮมหดตัวลงในอัตราร้อยละ 5 โดยมีปัจจัยจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ยังกลับมาไม่เต็มที่ มีเพียงภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวได้ดี และการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยมีผลกระทบสำคัญ ที่ทำให้กำลังซื้อลดลง เนื่องจากต้นทุนการกู้บ้านสูงขึ้น นอกจากนี้หนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง ส่งผลให้เกิด แรงต้านและกดดันกำลังซื้ออย่างต่อเนื่อง จึงคาดว่าตลาดอสังหาฯ มีแนวโน้มขยายตัวอย่างเล็กน้อยตามการเติบโต ของเศรษฐกิจไทยโดยรวม ต้องรอดูว่านโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจะได้ผลมากน้อยเพียงใด”

โดยในปี 2567 ทางสัมมากร ตั้งเป้าการเติบโตเพิ่มขึ้น 20% หรือคิดเป็นยอดขาย 3,600 ล้านบาท ซึ่งเติบโตสวนกระแสตลาดกับในปีที่ผ่านมา จากโครงการบ้านใหม่ๆ จะกำลังจะเปิดตัว 4 โครงการ ได้แก่ อนาพนา จตุโชติ, มิตติ ราชพฤกษ์-รัตนาธิเบศร์, Providence Lane เกษตร-นวมินทร์ และลาซาล และจากโครงการที่กำลังพัฒนา ได้แก่ อนาพนา นอร์ธราชพฤกษ์ รวมทั้งโครงการทำเลลาดพร้าว 91 และทำเลเอกมัย - รามอินทรา

สำหรับกลยุทธ์การตลาดรูปแบบใหม่ทั้งภายนอกองค์กรและภายในองค์กร โดยกลยุทธ์ภายนอกองค์กร (External Strategy) ได้แก่ 1) Data driven and Creative จะเข้ามาเป็นแกนกลางและหัวใจหลักของการดำเนินการในทุกกิจกรรมของบริษัท ข้อมูลต่างๆ ทั้งข้อมูลทั่วไปและข้อมูลเชิงลึกจะถูกนำมาประมวลผลมากขึ้น จนสามารถ นำมาประยุกต์ใช้กับทุกๆฟังก์ชันการทำงานรวมถึงทางการตลาดที่จะเกิดขึ้น

2) กิจกรรมทางการตลาดใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้น เพื่อช่วยกระตุ้นดีมานด์ของกลุ่มลูกค้า ทั้ง Affiliate program โปรเเกรมที่ให้ค่าเเนะนำบอกต่อ, Testimonial การสะท้อนสิ่งที่เกิดขึ้นจริงกับลูกบ้านสัมมากรในโครงการต่างๆ และ Campaign ใหม่ๆ เพื่อสื่อสารคำตอบของทุกโจทย์ความต้องการของลูกค้า

3) Environmental Sustainability Project เเละ CSR Campaign แคมเปญใหญ่ เพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนและโครงการเพื่อสังคมที่กำลังจะเกิดขึ้น

ส่วนกลยุทธ์ภายในองค์กร (Internal Strategy) คือ การสวัสดิการต่างๆ ที่เหมาะสมให้กับพนักงานสัมมากร ทุกคน เป็นพื้นที่ปลอดภัยให้กับพนักงาน ทำให้ครอบครัวของพนักงานทุกคนที่นี่เป็นครอบครัวที่หลับสบาย.
กำลังโหลดความคิดเห็น