สื่อนอกแฉ "อีลอน มัสก์" เศรษฐีใหญ่เพลบอยตัวพ่อเจ้าของธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า TESLA และธุรกิจด้านอวกาศ SpaceX และโซเชียลมีเดีย X (ทวิตเตอร์) พี้ยาเสพติดซึ่งผิดกฎหมายอเมริกา อาจส่งผลต่อภาพรวมธุรกิจโดยเฉพาะหุ้นที่มีการซื้อขายอยู่ในตลาดและความน่าเชื่อถือของการดำเนินธุรกิจในฐานะผู้บริหารระดับสูงขององค์กรใหญ่ ซึ่งมีความเสี่ยงที่บอร์ดบริหารจะร่วมกันโหวตปลดจากตำแหน่งได้
จากการเปิดเผยของ the wallstreet journal สื่อยักษ์ใหญ่เก่าแก่ของสหรัฐ ออกมาแฉถึงพฤติกรรมด้านลบของ "อีลอน มัสก์" เพลบอยตัวพ่อซึ่งเป็นมหาเศรษฐีอันดับต้นๆของโลกและเป็น CEO ของบริษัทรถไฟฟ้าชื่อดัง TESLA ตลอดจนผู้บริหารและผู้ก่อตั้ง SpaceX และเจ้าของโซเชียลมีเดีย X (ทวิตเตอร์) ซึ่งมีอดีตพนักงานของ TESLA ออกมาแฉว่าเขาใช้ยาเสพติดบางประเภทซึ่งผิดกฎหมายของสหรัฐ ซึ่งอาจทำให้เขาเสี่ยงต่อการถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย และมีผลกระทบต่อภาพรวมธุรกิจของเขา
เอกสารที่ส่งมายัง Wall Street Journal แสดงให้เห็นว่า อีลอน มัสก์ ได้รับการสอบสวนจากสำนักงานกำกับดูแลยาสูบและยาเสพติด (DEA) เกี่ยวกับการใช้ยาเสพติด โดยเฉพาะยาเสพติดที่ใช้ส่วนประกอบจากเห็ดไซโลไซบิน ซึ่งเป็นยาเสพติดประเภทที่ห้า และถูกห้ามใช้ในสหรัฐอเมริกา
เอกสารเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งที่เชื่อมโยงกับคดีที่เกี่ยวข้องกับการเลิกจ้างของ Martin Tripp ซึ่งเป็นอดีตพนักงานของ Tesla และถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้แอบนำข้อมูลลับด้านลบของผู้บริหารบริษัท ไปแฉยังสื่อมวลชน ซึ่งถูกเรียกการกระทำในลักษณะดังกล่าวว่า "whistleblower" หรือผู้กุมความลับด้านมืด
Tripp อ้างว่า อีลอน มัสก์ มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม และใช้ยาเสพติด ซึ่งอาจทำให้เขาไม่สามารถบริหารบริษัทได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค ตลอดจนผู้ลงทุน
ขณะที่ อีลอน มัสก์ เองก็ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาเหล่านี้ และอ้างว่า Tripp อาจมีความคับแค้นที่พ้นสภาพการเป็นพนักงานบริษัท ซึ่งการกระทำของ Tripp สะท้อนเจตนาที่ไม่ดีต่อเขา และบริษัท ของเขา อย่างไรก็ตาม อีลอน มัสก์ กล่าวว่า เขาไม่เคยใช้ยาเสพติดใด ๆ ที่ผิดกฎหมาย และเขามีความรับผิดชอบต่อธุรกิจของเขา
ทั้งนี้คดีนี้ยังไม่ได้มีการตัดสิน และยังไม่มีการยืนยันว่า DEA ได้ข้อสรุปในการสอบสวน อีลอน มัสก์ จริงหรือไม่ แต่เอกสารที่ส่งไปยัง Wall Street Journal แสดงให้เห็นว่า เอลอน มัสก์ อาจต้องเผชิญกับความท้าทายทางกฎหมาย และการเสียความน่าเชื่อถือในการดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะอำนาจในการบริหารธุรกิจตามกฎหมายหลักทรัพย์ที่อาจมีความสุ่มเสี่ยงที่คณะกรรมการบริหารบริษัท และผู้ถือหุ้น มีมติในการโหวตปลดเขาจากการเป็นผู้บริหารได้ หากพฤติกรรมของผุ้บริหารส่งผลต่อความน่าเชื่อถือ และประสิทธิภาพในการบริหารธุรกิจ