แม้ต้องคดีฟอกเงินถูกปรับอ่วม แต่ฉางเผิง จ้าว หรือ CZ ยังคงยืนหยัดอยู่ในทำเนียบ 500 มหาเศรษฐีโลกของบลูมเบิร์ก และถือเป็นผู้ประกอบการในแวดวงคริปโตที่มีสินทรัพย์สุทธิเพิ่มขึ้นมากที่สุดในปี 2023
ตามรายงานของบลูมเบิร์ก CZ ผู้ก่อตั้งและอดีตประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร (CEO) ของไบแนนซ์ โฮลดิ้งส์ อาจต้องรับโทษจำคุกในปี 2024 หลังยอมรับผิดในคดีอาญาในอเมริกาเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางเรื่องร้ายยังมีข่าวดีสำหรับจ้าว นั่นคือสินทรัพย์สุทธิที่เพิ่มขึ้น 24,600 ล้านดอลลาร์เมื่อเทียบกับปี 2022 มากกว่าค่าปรับ 4,300 ล้านดอลลาร์ที่ไบแนนซ์ตกลงจ่ายเป็นค่ายอมความให้หน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐฯ หลายเท่า
จากราคาบิตคอยน์ที่โลดแล่นน่าประทับใจตลอดปีนี้ จ้าวกลายเป็นผู้ประกอบการในแวดวงคริปโตที่มีสินทรัพย์สุทธิเพิ่มขึ้นมากที่สุด ด้วยมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ 36,200 ล้านดอลลาร์ ณ วันที่ 27 ธันวาคม ซึ่งส่วนใหญ่ได้มาจากการถือหุ้นไบแนนซ์ กระดานเทรดคริปโตใหญ่ที่สุดของโลก ทำให้เขายังคงอยู่ในทำเนียบบุคคลที่รวยที่สุด 500 อันดับแรกของโลกจากการจัดอันดับของบลูมเบิร์กต่อไปอีกปี โดยอยู่ที่อันดับ 35
ทั้งนี้ เดือนพฤศจิกายน จ้าวและไบแนนซ์ยอมรับผิดในคดีฟอกเงินและละเมิดมาตรการแซงก์ชันของรัฐบาลสหรัฐฯ โดยทำข้อตกลงยอมความซึ่งเปิดทางให้ไบแนนซ์ยังสามารถดำเนินธุรกิจได้ต่อไป
ส่วนหนึ่งของข้อตกลงยอมความนั้น จ้าวต้องจ่ายค่าปรับ 50 ล้านดอลลาร์ และลาออกจากตำแหน่ง CEO แม้ยังคงถือหุ้นอยู่ในไบแนนซ์ก็ตาม
แม้มีความเป็นไปได้ว่า จะถูกจำคุกสูงสุดนานถึง 10 ปี แต่ข้อตกลงยอมความอาจจำกัดระยะเวลาการรับโทษเหลือเพียงสูงสุด 18 เดือน และอาจช่วยไม่ให้จ้าวต้องเผชิญบทลงโทษรุนแรงเหมือนคนดังคนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับคดีอาญาเกี่ยวกับคริปโต
อย่างไรก็ดี แม้มีสินทรัพย์เพิ่มขึ้นอย่างน่าประทับใจในปี 2023 แต่ยังน้อยกว่าช่วงต้นปี 2022 ที่มูลค่าสินทรัพย์ของจ้าวเพิ่มขึ้นสูงสุดอยู่ที่เกือบ 97,000 ล้านดอลลาร์ อีกทั้งยังลดลงจากระดับสูงสุดของปีนี้ที่ทำไว้ที่ 50,400 ล้านดอลลาร์ในเดือนกรกฎาคม ทั้งนี้ จากข้อมูลของบลูมเบิร์ก บิลเลียนแนร์ส อินเด็กซ์
จ้าวไม่ได้เป็นเศรษฐีพันล้านคนเดียวที่ได้อานิสงส์จากการฟื้นตัวของคริปโตในปี 2023 และอยู่ในรายชื่อ 500 มหาเศรษฐีโลกของบลูมเบิร์ก แต่ความรู้สึกแง่บวกของตลาดประกอบกับข้อตกลงยอมความของไบแนนซ์ และความเป็นไปได้ที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) จะอนุมัติการจดทะเบียนกองทุน Bitcoin Spot ETF ทำให้ผู้เล่นคนเด่นคนดังในอุตสาหกรรมคริปโตหลายคนรวยขึ้นไปตามๆ กัน
จากรายงานของบลูมเบิร์ก ไบรอัน อาร์มสตรอง CEO คอยน์เบส โกลบัล มีสินทรัพย์เพิ่มขึ้น 5,800 ล้านดอลลาร์ เป็น 7,200 ล้านดอลลาร์ โดยราคาหุ้นคอยน์เบสปีนี้บวกไปเหนาะๆ ประมาณ 400% และอาร์มสตรองถือหุ้นบริษัทราว 16%
นอกจากนั้น จากข้อมูลของสตาติสทิคัล อาร์มสตรองยังเป็นมหาเศรษฐีอันดับ 3 ในแวดวงคริปโตและบล็อกเชนของโลกจากมูลค่าสินทรัพย์เมื่อเดือนมีนาคม 2022 ก่อนที่ตลาดคริปโตจะล่ม
เฟร็ด เออห์แซม ผู้ร่วมก่อตั้งคอยน์เบส รวยขึ้น 1,800 ล้านดอลลาร์ เป็น 2,500 ล้านดอลลาร์
พี่น้องฝาแฝดวิงเคิลวอสส์ ผู้ร่วมก่อตั้งกระดานเทรดคริปโต เจมิไน ทรัสต์ และนักลงทุนรายใหญ่ในบิตคอยน์ มีสินทรัพย์เพิ่มขึ้นคนละ 1,400 ล้านดอลลาร์ เป็น 2,700 ล้านดอลลาร์
ในทางกลับกัน แซม แบงก์แมน-ฟรีด อดีต CEO กระดานเทรดคริปโต FTX ที่ติดคุกอยู่ตอนนี้ มีสินทรัพย์สุทธิ 0 ดอลลาร์ เทียบกับเดือนมีนาคม 2022 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เขารวยอู้ฟู่ที่สุดคือ 25,900 ล้านดอลลาร์
อนึ่ง ในตารางรวมของบลูมเบิร์ก บิลเลียนแนร์ส อินเด็กซ์นั้น อีลอน มัสก์ CEO เทสลาและสเปซเอ็กซ์ ครองอันดับ 1 ด้วยมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ ณ วันที่ 27 ธันวาคม 235,000 ล้านดอลลาร์ มากกว่าเบอร์นาร์ด อาร์โนลต์ นักธุรกิจฝรั่งเศสและ CEO แบรนด์สินค้าหรู LVMH รวมทั้งเจฟฟ์ เบโซสแห่งแอมะซอน, บิลล์ เกตส์, สตีฟ บัลเมอร์ อดีต CEO ไมโครซอฟท์ หรือกระทั่งมาร์ก ซักเคอร์เบิร์กจากเมตา แพลตฟอร์มส์
อย่างไรก็ตาม แม้คว้าตำแหน่งคนรวยที่สุดในโลกประจำปี 2023 แต่สินทรัพย์ของมัสก์ในปีนี้ลดลง 25% จาก 340,000 ล้านดอลลาร์ในเดือนพฤศจิกายน 2021