xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นอาหารสัตว์เลี้ยงฟื้น ส่งออกขยับดีมานด์ตลาดสหรัฐพุ่ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กลุ่มอาหารสัตว์ส่งออกฟื้นตัว หนุนผลงานหุ้นกลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยง เป็น “มากกว่าตลาด” จากปัจจัยหนุนทั้งตัวเลขส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงของไทยทยอยฟื้นตัว เติบโต 6% เทียบปีก่อน ตลาดหลักสหรัฐฯ ขยายตัวสูง 21% หนุนผลงานหุ้นกลุ่มอาหารสัตว์ โบรกเกอร์ มองการฟื้นตัวของยอดขาย AAI และ ITC สะท้อนสถานการณ์ inventory destocking ผ่านจุดต่ำสุด ขณะที่มูลค่าส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงรวมล่าสุดเดือน ต.ค. 66 อยู่ที่ 220 ล้านบาท

บล.ดาโอ ประเมินส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยง (Pet Food) ยังฟื้นตัว, ต้นทุนทูน่าลด, ราคาหุ้นน่าสนใจ จึงปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนกลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยง (Pet Food) เป็น “มากกว่าตลาด” (จากเดิม “เท่ากับตลาด”) จาก 4 ปัจจัยหลักดังนี้ คือตัวเลขส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงของไทยทยอยฟื้นตัว ซึ่งล่าสุดส่งออกอาหารสุนัขและแมวเดือน ต.ค. 2566 กลับมาโต 6% เทียบปีก่อน ในรอบ 1 ปี (10 เดือนปี 2566 เท่ากับลดลง 19%)

ขณะที่ตลาดหลักสหรัฐฯ ขยายตัวสูง 21% เทียบเดือนก่อน เช่นกัน สะท้อนสถานการณ์ inventory destocking คลี่คลายต่อเนื่อง, Gross profit margin จะดีขึ้น จากต้นทุนวัตถุดิบหลักอ่อนตัว โดยเฉพาะราคาทูน่า (15%ของต้นทุนรวม) ซึ่งเดือน พ.ย.2566 บล.ดาโอ คาดว่าจะอยู่ที่ USD1,500/ton หรือลดลง 12% เทียบปีก่อน แต่ลดลง 6% เทียบเดือนก่อน ซึ่งปรับลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 และจะยังทรงตัวต่ำในไตรมาสแรกปี 2567 และคาดกำไรปกติปี2567 ฟื้นตัวดี หรือเพิ่มขึ้น 37% เทียบปีก่อน และมีแนวโน้มดีกว่าคาด จากการขยายลูกค้าใหม่ สุดท้ายราคาหุ้นปัจจุบันกลับมาน่าสนใจ โดยปรับตัวลงเฉลี่ยสูงถึง 38% YTD สะท้อน downside risks ค่อนข้างจำกัด

ทั้งนี้ ราคาหุ้นกลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยงโดยรวม underperform SET เฉลี่ยลดลง 7% ใน 6 เดือน แต่กลับมา outperform SET เพิ่มขึ้น 11% ใน 3 เดือน จากผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2566 ดีกว่าคาด และส่งออกเดือน ต.ค.2566 พลิกฟื้นกลับมาขยายตัวจากปีก่อน ในรอบ 1 ปี สำหรับ Top pick ได้แก่ AAI (ซื้อ/เป้า 5.00 บาท) แม้จะเป็นผู้ประกอบการอาหารสัตว์เลี้ยงขนาดเล็ก แต่ บล.ดาโอ มองว่า AAI หรือ บริษัท เอเชี่ยน อะไลอันซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) น่าสนใจจากประมาณการกำไรปกติปี 2567 โอกาสมี upside สูง จากการขยายลูกค้าใหม่ในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นลูกค้ารายใหญ่ ขณะที่ปัจจุบันยังเทรด ปี25 67 PER 16x ต่ำกว่า ITC หรือ บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ที่ 21x

สำหรับส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงทยอยฟื้นตัว สะท้อน inventory destocking ผ่านจุดต่ำสุดแล้ว ตัวเลขส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงโดยรวมของไทยทยอยฟื้นตัวนับตั้งแต่ พ.ค.2566 โดยทิศทางดังกล่าวสอดคล้องกับการฟื้นตัวของยอดขาย AAI และ ITC ซึ่งสะท้อนสถานการณ์ inventory destocking ผ่านจุดต่ำสุด ขณะที่มูลค่าส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงรวมล่าสุดเดือน ต.ค. 2566 อยู่ที่ 220 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 1% เทียบปีก่อน และ 2% จากเดือนก่อน ส่วนส่งออกอาหารสุนัขและแมว (89% ของส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงรวม) อยู่ที่ 196 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 6% จากปีก่อน และ 5% จากเดือนก่อน ซึ่งเป็นการกลับมาขยายตัวเมื่อเทียบปีก่อน ในรอบ 1 ปี นอกจากนี้ตัวเลขส่งออกอาหารสุนัขและแมวไปยังสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตลาดหลัก ( 31% ของมูลค่าส่งออกอาหารสุนัขและแมวรวม ) และยังเป็นตลาดหลักของ AAI และ ITC (55-60% ของรายได้รวม) กลับมาเติบโตสูงถึง 21% เทียบเดือนก่อน

ทั้งนี้ ได้อานิสงส์จากต้นทุนวัตถุดิบหลักอ่อนตัว บล.ดาโอ คาดการณ์กลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยงจะได้ปัจจัยหนุนจากต้นทุนวัตถุดิบอ่อนตัว โดยเฉพาะทูน่าซึ่งเป็นวัตถุดิบหลัก (ราว 15% ของต้นทุนรวม) หลังจากที่ราคาทูน่าปรับตัวลงต่อเนื่อง 4 เดือนติดต่อกัน ขณะที่แนวโน้มราคาทูน่าเดือน พ.ย. 2566 จะอ่อนตัวลงต่อ โดยเบื้องต้น ประเมินอยู่ที่ราว USD1,500/ton ลดลง 12% จากปีก่อนและ 6% จากเดือนก่อนและคาดการณ์ราคามีโอกาสลดลงต่อเนื่องในไตรมาสแรกปี 67 จากการจับปลาที่ทำได้ดีขึ้น นอกเหนือจากนี้ยังมีอานิสงส์จากราคาไก่เนื้อในประเทศทรงตัวต่ำ (ราว 7-10% ของต้นทุนรวม) แม้ว่าราคาไก่เนื้อเดือน พ.ย.2566 เฉลี่ยจะเพิ่มขึ้น 5% จากเดือนก่อน เพราะเข้าสู่ช่วงเทศกาลจับจ่าย แต่โดยรวมราคาเฉลี่ยไตรมาส 4 ปี 2566 ยังอ่อนตัว คือลดลง 15% จากปีก่อนและ7% จากไตรมาสก่อน อยู่ที่ราว 36 บาท/กก. เนื่องจากยังมีปัจจัยกดดันจากการบริโภคในประเทศที่ฟื้นช้าและผลกระทบทางอ้อมจากปัญหาหมูเถื่อน

ดังนั้น จึงคงประมาณการกำไรปกติปี 2566/67 แต่โอกาสมี upside บล.ดาโอ คงประมาณการกำไรปกติกลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยงปี66 ที่ 2.6 พันล้านบาท หรือลดลง 50% จากปีก่อน และปี 2567 ที่ 3.6 พันล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 37% จากปีก่อน และยังคงสมมติฐานยอดขายรวมปี 2566 ที่ 2.1 หมื่นล้านบาท ลดลง 28% จากปีก่อน และปี 2567 ที่ 2.4 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% อย่างไรก็ตาม มองว่าประมาณการโดยรวมปี 2567 มีแนวโน้มดีกว่าคาด โดยเฉพาะ AAI ที่โอกาสมี upside จากคำสั่งซื้อลูกค้าใหม่ 2 ราย ซึ่งเป็นลูกค้ากลุ่มprivate label รายใหญ่ในสหรัฐฯ และ ยังไม่ได้รวมในประมาณการ โดยรายแรกจะเริ่มส่งมอบสินค้าตั้งแต่ไตรมาสแรกปี 2567

บล.ดาโอ (ประเทศไทย) ระบุว่า ฝ่ายวิจัยได้ปรับคำแนะนำขึ้นเป็น "ซื้อ" (เดิม "ถือ") และปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 23.00 บาท (เดิม 22.00 บาท) อิง 67 PER 22x ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยง ขณะที่ ITC รายงานกำไรปกติไตรมาส 3 ปีนี้ที่ 653 ล้านบาท ลดลง 47% จากปีก่อน แต่เพิ่มขึ้น 51% จากไตรมาสก่อน สูงกว่า consensus คาดเพิ่มขึ้น 37% และฝ่ายวิจัยคาดเพิ่มขึ้น 35% กำไรปกติปรับตัวลงเทียบปีก่อน เป็นไปตามฐานสูงไตรมาส 3 ปี 2565 ซึ่งเป็นช่วงที่ลูกค้ามีการเร่งสต็อกสินค้าจากความกังวลภาคขนส่งภายหลังสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย ขณะกำไรปกติปรับตัวขึ้นสูงเทียบไตรมาสก่อน หนุนโดยยอดขายกลับมาฟื้นตัวในทุกช่องทางการจัดจำหน่ายจากการกลับมาเติมสต็อกของลูกค้ารายใหญ่ในสหรัฐฯ และยุโรป อานิสงส์การปรับราคาขายขึ้น และ SG&A อ่อนตัวจากแผนการบริหารต้นทุนเข้มงวดขึ้น
 
โดยปรับกำไรปกติปี 2566/67 ขึ้นอีก 10% / 5% เป็น 2.2 พันล้านบาท / 3 พันล้านบาทหรือ ลดลง 49% จากปีก่อน แต่เพิ่มขึ้น 40% เทียบปีก่อน เพื่อสะท้อนไตรมาส 3 ปี 2566 ฟื้นเร็วกว่าคาดมาก ขณะคาดการณ์แนวโน้มกำไรปกติไตรมาส 4 ปี25 66 จะดีขึ้นต่อเนื่องเทียบไตรมาสก่อน และปี 2567 จะดีขึ้นต่อเนื่อง หนุนโดยสถานการณ์ inventory ของลูกค้าทยอยกลับสู่ระดับปกติ ต้นทุนทูน่าอ่อนตัว และการเริ่มดำเนินการผลิตโรงงานใหม่ต้นปี 2024E ขณะที่มองว่าราคาหุ้นช่วงที่ผ่านมาปรับตัวลงสูงถึง 32% YTD ค่อนข้างสะท้อนปัจจัยลบแล้ว

บล.กรุงศรี พัฒนสิน ระบุ สินค้าส่งออกเดือน ต.ค. 2566 ได้เห็นสัญญาณสินค้าเกษตรเริ่มมีทิศทางดี และสินค้าที่โดดเด่นในกลุ่มสินค้าเกษตร คือ อาหารสุนัขและแมว เพิ่มขึ้น 5.5% เทียบปีก่อน เป็นปัจจัยที่ยืนยันการทยอยผ่านจุดต่ำสุด และอิงกลุ่มสินค้าที่มีพัฒนาการบวก ซึ่งมองเป็นภาพที่ดีต่อ AAI และ ITC
 
ทั้งนี้ ยอดส่งออกไทยเดือน ต.ค.2566 ขยายตัวเพิ่มขึ้น 8.0% เทียบปีก่อน หนุนจากสินค้าเกษตร อาทิ อาหารสัตว์เลี้ยง อุปกรณ์กึ่งตัวนำ ไก่แปรรูป (หดตัวเทียบปีก่อน ลดลง) มองบวกทั้งต่อ AI และ ITC ส่วนการนำเข้าสูง โดยเฉพาะที่มาจากสินค้าทุนและวัตถุดิบ บ่งชี้การผลิตกลับมาเร่ง สะท้อนกำลังภายในฟื้นตัว บวกกลุ่มกำลังซื้อภายใน
 
บล.หยวนต้า มองผลประกอบการ ITC ได้ผ่านพ้นจุดต่ำสุดไปแล้วในไตรมาสแรกปี 2566 หลังจากปัจจัยกดดันช่วงก่อนหน้านี้เริ่มคลายลง และคาดจะเห็นการทยอยการฟื้นตัวและต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปี คาดกำไรไตรมาส3 ปี2566 ที่ 480 ล้านบาท หรือ โต 10.9% จากไตรมาสก่อน ( ซึ่ง ITC แจ้งงบต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ มีกำไรสุทธิ 645 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45% ) หลังจากระดับสินค้าคงคลังของลูกค้าเริ่มทยอยลดลงหนุนการกลับมาสั่งซื้อสินค้ามากขึ้น ประกอบกับการรับรู้การปรับขึ้นราคาขายกับลูกค้าได้มากขึ้น ซึ่งมีมุมมองบวกต่อภาพการเติบโตในระยะยาวของ ITC เนื่องจากอยู่ในอุตสาหกรรมที่เติบโตสูง ส่วน ITC มีจุดแข็งจะทำให้เติบโตได้เหนือกว่าคู่แข่ง และราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลง 25% YTD สะท้อนปัจจัยลบไปมาก และยังไม่สะท้อนภาพของแนวโน้มการฟื้นตัวหลังจากนี้ ประเมินรมูลค่า ITC อิง P/Eที่ 24.3 เท่า ได้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2567 ที่ 26 บาท เริ่มต้นให้คำแนะนำ "ซื้อ"

บล.กสิกรไทย ออกบทวิเคราะห์มอง AAI ให้ราคาพื้นฐาน 5.5 บาท เนื่องจาก AAI น่าสนหลังราคาหุ้นร่วงลงแรงตลอดทางทั้งปีตามยอดขายที่ชะลอตัว แต่ราคานี้และผลประกอบการที่คาดความเสี่ยงด้านล่างเชื่อจำกัดแล้ว ขณะที่แนวโน้มยอดขายคาดว่าจะดีขึ้นช่วงครึ่งหลัง ตามผลของการลดสต๊อกของบริษัทคู่ค้าในช่วงก่อนหน้า ทำให้คาดว่าจะมีคำสั่งซื้อใหม่ของคู่ค้ากลับเข้ามา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังตัวเลขส่งออกเดือน ก.ค.รายงานออกมาสะท้อนภาพยอดคำสั่งสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วและกำลังค่อย ๆ ทยอยฟื้นตัว 3 เดือนติดแล้ว

บล.ทิสโก้ ระบุว่าแนวโน้มกำไรไตรมาส 3 ปี2566 ของ AAI ที่ 119 ล้านบาท เติบโต 353% จากไตรมาสก่อน (AAI แจ้งงบต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ มีกำไรสุทธิ 118.17 ล้านบาท ) ส่วนไตรมาส 4 ปี2566 ยอดขายจะเริ่มฟื้นตัวต่อเนื่องเมื่อเทียบไตรมาสก่อน จากสต๊อกสินค้าเก่าเริ่มหมดและมีลูกค้ารายใหม่เป็นรายใหญ่กลุ่ม Private Label เพิ่ม 1 ราย หนุนมาร์จิ้นเริ่มดีขึ้นจากราคาปลาทูน่าเริ่มลดลงพร้อมปรับกำไรปี 2566 ขึ้นจากเดิม 10% และ 22%


กำลังโหลดความคิดเห็น