หน่วยเฝ้าระวังทางการเงินของเกาหลีใต้ สั่งปรับเงินอย่างน้อย 10 พันล้านวอน (หรือประมาณ 7.67 ล้านดอลลาร์ ณ อัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบัน ที่$1 = 1,303.6600 วอน) ต่อ 2 ธนาคารใหญ่คือ HSBC Holdings (HSBA.L) และ BNP Paribas (BNPP.PA) สำหรับการขายทำธุรกรรม Naked Short
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานอ้างถึงว่า Bloomberg News ที่ระบุเมื่อวานนี้ (21 ธ.ค. 66) ว่าคณะกรรมาธิการ 5 คนซึ่งนำโดย คิม โซ-ยัง รองประธานคณะกรรมการบริการทางการเงิน หรือ FSC ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐ ที่มีอำนาจตามกฎหมายเกี่ยวกับนโยบายการเงินและการกำกับดูแลด้านกฎระเบียบ ได้มีการประชุมหารือเกี่ยวกับค่าปรับในระหว่างการประชุมเมื่อวันพุธ แต่ไม่สามารถสรุปได้ โดยในรายงานกล่าว พร้อมเสริมว่าจำนวนเงินสุดท้ายอาจมีการเปลี่ยนแปลงในระหว่างการหารือในภายหลัง
ขณะที่การยืมหุ้นมาขายหรือ Naked Short ซึ่งนักลงทุนนำหุ้นไปขาย โดยไม่ได้ยืมหรือพิจารณาว่าสามารถยืมได้นั้น มีความผิดตามพระราชบัญญัติตลาดทุนในเกาหลีใต้
“เรากำลังสอบสวนบริษัททางการเงินที่เกี่ยวข้องกับการนำหุ้นมาขายโดยไร้ใบหุ้น หรือ Naked Short ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาความเสียหาย ยังไม่ได้เคาะรายละเอียดจำนวนค่าปรับสุทธิ” เจ้าหน้าที่ FSC กล่าว
ขณะที่ทาง HSBC และ BNP Paribas ยังคงสงวนท่าทีต่อข่าวที่เกิดขึ้น และไม่ตอบสนองต่อคำร้องขอความคิดเห็นของท่าที่สำนักงาน ก.ล.ต. เกาหลี
ขณะที่ย้อนกลับไปเมื่อเดือน พ.ย. เกาหลีใต้บังคับใช้คำสั่งห้ามการขายชอร์ตเต็มรูปแบบอีกครั้งจนถึงสิ้นเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2567 เพื่อสร้าง "การแข่งขันที่เท่าเทียมกันในตลาดทุน" สำหรับนักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนสถาบัน
ขณะที่ทางยาฮูไฟแนนซ์ รายงานว่าทาง HSBC Holdings plc HSBC และ BNP Paribas SA BNPQY มีแนวโน้มจะถูกปรับฐานประพฤติมิชอบทางการเงิน ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานเฝ้าระวังทางการเงินของเกาหลีใต้ สำนักงานกำกับดูแลทางการเงินของประเทศ (“FSS”) ได้ให้คำวินิจฉัยต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าภายใต้หน่วยงานกำกับดูแลด้านบริการทางการเงิน (“FSC”) เพื่อกำหนดค่าปรับอย่างน้อย 10 พันล้านวอนสำหรับแต่ละบริษัทจากทั้งสองบริษัทสำหรับความผิดในการทำธุรกรรม Naked Short การขายชอร์ต
อย่างไรก็ตาม ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา หุ้น HSBC เพิ่มขึ้น 1% และ BNPQY เพิ่มขึ้น 11.8% โดยอุตสาหกรรมที่มีหุ้นอยู่เพิ่มขึ้น 11.3%