คลังรับ Robot Trade กระทบหุ้นไทย เร่งหารือ ก.ล.ต. ทบทวนหลังหุ้นตกสวนทางต่างชาติ ยืนยันพื้นฐานเศรษฐกิจไทยแข็งแกร่ง
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงภาวะหุ้นว่า ตลาดหุ้นไทยสวนทางกับตลาดหุ้นทั่วโลกปรับเพิ่มขณะนี้ โดยยอมรับว่าส่วนหนึ่งได้รับผลกระทบจากการใช้โปรแกรมเทรด (Robot Trade) โดยกระทรวงคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้หารือกับเลขาธิการ ก.ล.ต. นางพรอนงค์ บุษราตระกูล ให้ศึกษาและทบทวนการใช้ Robot Trade ในการซื้อขายหุ้น นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ได้ทยอยปรับดอกเบี้ยขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้อยู่ที่ 5.25% ทำให้มีเงินไหลออกเพื่อหาผลตอบแทนจำนวนหนึ่ง
ส่วนประเด็นการศึกษาทบทวนใช้ Robot Trade จะกระทบต่อความเชื่อมั่นนักลทุนหรือไม่ ต้องหารือและศึกษาให้รอบคอบ เนื่องจากพื้นฐานเศรษฐกิจไทยค่อนข้างดี แต่ดัชนีหุ้นไทยกลับลดลง ส่วนทางกับต่างประเทศ เมื่อนายกรัฐมนตรีสั่งการดูแลเรื่องหุ้นตก ปลัดคลังเป็นกรรมการในบอร์ด ก.ล.ต. จึงได้ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อหารือกับ ก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์ฯ
"ยอมรับว่าพื้นฐานเศรษฐไทยดีมากในช่วงนี้ ทุนสำรองระหว่างประเทศสูงถึง 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ การดำรงเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง BIS ของระบบสถาบันการเงิน 19% จากเกณฑ์มาตรฐานของ ธปท. 8.5% ไทยยังเกินดุลการค้า เงินคงคลังสูง 5 แสนล้านบาท จึงถือว่าพื้นฐานเศรษฐกิจไทยยังแข็งแกร่ง" รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคลังกล่าว
สำหรับพอร์ตการถือหุ้นของกระทรวงการคลังเป็นไปตามกลไกของตลาด เพราะไม่ได้เน้นการลงทุนเพื่อเก็งกำไร แต่เข้าไปถือหุ้นเพื่อช่วยเหลือกิจการต่างๆ ในช่วงมีปัญหาเศรษฐกิจที่ผ่านมา
ส่วนกรณีเฟดคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นนั้น นับเป็นสัญญาณที่ดี เมื่อแนวโน้มดอกเบี้ยไม่ปรับขึ้น จะเป็นผลดีต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ และการกู้เงินไปลงทุนของเอสเอ็มอี ผู้ประกอบการทั่วไป นับเป็นแนวโน้มที่ดี