หน่วยสืบราชการลับสหรัฐฯ ยึดคริปโต 17.8 ล้านจาก บัญชี 'หวัง หยี่ เฉิง' นักธุรกิจจีนในไทย โยงปมรอยเตอร์ส แฉโกงคริปโตกว่า 2 พันล้าน
สำนักข่าวอิสรา ได้นำเสนอข่าวเกี่ยวข้องกับนายหวัง หยี่ เฉิง นักธุรกิจจีนที่ถูก สำนักข่าวรอยเตอร์ส ระบุว่ามีส่วนเชื่อมโยงกับกรณีบัญชีสกุลเงินคริปโต ฉ้อโกงคิดเป็นเงินไทยนับพันล้านบาท โดยนายหวังเคยทำงานให้กับสมาคมการค้าแลกเปลี่ยนเศรษฐกิจไทย-เอเชีย และมีภาพเคยมอบดอกไม้ให้กับนายตำรวจระดับผู้บังคับการในหน่วยงานปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์
ขณะที่นายกสมาคมฯ ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอิศราว่านายหวังถูกเชิญออกจกสมาคมไปกว่า 3 เดือนแล้ว เพราะว่าไม่ได้ร่วมกิจกรรมช่วยเหลือสังคมตามเป้าหมายของสมาคมฯ
ขณะที่สมาคมชาวจีน แจ้งกับทางรอยเตอร์ส ย้ำนักธุรกิจถูกโยงโกงคริปโตพันล้าน ได้ออกจากบอร์ดบริหารสมาคมได้กว่า 3 เดือนแล้ว
นอกจากนี้ทางสำนักข่าวรอยเตอร์สได้รายงานข่าววันที่ 13 ธ.ค.ว่าสหรัฐอเมริกาได้มีการยึดสกุลเงินดิจิทัลที่มีมูลค่าประมาณครึ่งล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในบัญชีซึ่งจดทะเบียนในนามของชายชาวจีน (นายหวัง หยี่ เฉิง) ผู้ซึ่งสำนักข่าวรอยเตอร์สได้ระบุในรายงานข่าวสืบสวนเกี่ยวกับกรณีหลอกลวงให้มีลงทุนคริปโตจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ทางการสหรัฐฯ กล่าวว่าการหลอกลวงที่กระตุ้นให้เกิดการจับกุมเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงการลงทุนคริปโตที่เรียกว่าการเชือดหมู ซึ่งในกระบวนการหลอกลวงดังกล่าว มิจฉาชีพหรือสแกมเมอร์จะควบคุมเหยื่อที่ไม่สงสัยที่พวกเขาพบทางออนไลน์ โดยชักชวนให้พวกเขาลงทุนในแผนคริปโตปลอม
ต่อมาหน่วยสืบราชการลับของสหรัฐฯได้ยึดคริปโตจากบัญชีของนายหวัง หยี่ เฉิง เมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา ตามเอกสารที่ยื่นโดยเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ที่ชั้นศาลในรัฐแมสซาชูเซตส์ โดยคริปโตดังกล่าวมีมูลค่าประมาณ 5 แสนดอลลาร์สหรัฐฯ (17,897,250 บาท) ในช่วงเวลาขณะนั้น (เดือน มิ.ย.) โดยเริ่มแรกเงินได้ถูกขโมยจากเหยื่อที่รัฐแมสซาชูเซตส์ แต่พอตรวจสอบเส้นทางการเงินก็พบว่ามันไปสู่บัญชีคริปโตของนายหวัง ตามข้อมูลเอกสารเมื่อวันที่ 21 พ.ย.
อนึ่งการยื่นฟ้องศาลสหรัฐฯ เป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการริบทรัพย์ทางแพ่ง ซึ่งทางรัฐบาลสหรัฐฯได้ขออนุมัติจากศาลเพื่อเข้าครอบครองทรัพย์สินที่ถูกยึดมา ซึ่งทรัพย์สินเหล่านี้ถูกกล่าวหาว่าเชื่อมโยงกับอาชญากรรม โดยสำนักงานอัยการสหรัฐฯที่รัฐแมสซาชูเซตส์กล่าวในขณะที่ยื่นฟ้องในเดือน พ.ย.ว่าสหรัฐฯยังไม่ได้ยื่นฟ้องในทางคดีอาญาที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้
ขณะที่นายโจชัว เลวี่ รักษาการอัยการสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวรอยเตอร์สผ่านแถลงการณ์ว่าสำนักงานอัยการได้ใช้กระบวนการริบทรัพย์เพื่อกู้คืนเงินที่ถูกขโมยผ่านแผนการฉ้อโกงคริปโต
"แม้จะมีลักษณะที่ดูเหมือนเข้าใจยากของธุรกรรมสกุลเงินดิจิทัล แต่การบังคับใช้กฎหมายกําลังปรับตัวและพัฒนา” นายเลวี่กล่าวผ่านแถลงการณ์