โฮมโปรคาดปี 66 รายได้และกำไรยังเติบโต แม้จะต่ำกว่าเป้าหมาย เหตุเศรษฐกิจไม่ดี อัตราดอกเบี้ยปรับสูงขึ้น ภาระหนี้ครัวเรือนยังตามหลอน ซ้ำด้วยการแข่งขันของผู้ประกอบการรุนแรง พร้อมวิเคราะห์ ศก.ปีหน้าอาจจะซึมถึงกลางปี ลุ้นมาตรการรัฐเงินดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท และ E-Refund ปลุกกำลังซื้อได้ดี หนุนตรงสินค้าของโฮมโปร เดินหน้ากลยุทธ์การลงทุนต่อ ทุ่ม 5,000-6,000 ล้านบาท เปิดสาขาใหม่และรีโนเวต ยกระดับสาขาเดิมให้แข่งขันได้มากขึ้น เผยเรื่องผังเมืองยังเป็นอุปสรรคต่อการเปิดสาขาใหม่ในบางทำเล ทุ่ม 40 ล้านบาท จัดงาน 'โฮมโปร เอ็กซ์โป' ส่งท้ายปี 66 ดันยอดขายเพิ่มอีก 300 ล้านบาท
นายวีรพันธ์ อังสุมาลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือโฮมโปร เปิดเผยถึงภาพรวมเศรษฐกิจปี 2566 กำลังซื้อค่อนข้างอ่อน เพราะเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวอย่างเต็มที่ ภาคการเกษตร และอุตสาหกรรมค่อนข้างอ่อน สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป ประกอบกับภาวะอัตราดอกเบี้ยที่ปรับเพิ่มขึ้น ตัวเลขหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับที่สูง ประกอบกับการแข่งขันในธุรกิจรุนแรง มีผู้ประกอบการคู่แข่งเข้ามาแข่งขันในตลาดมากขึ้น มีกลยุทธ์เพิ่มช่องทางการขายผ่านออนไลน์
อย่างไรก็ตาม แม้ภาพรวมจะชะลอตัว แต่ในเรื่องของผลประกอบการโฮมโปรยังมีการเติบโตได้มากขึ้นกว่าปีก่อนหน้า แต่เป็นการเติบโตในสัดส่วนที่ต่ำกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ จากที่ในปี 2566 บริษัทตั้งเติบโตในส่วนของรายได้เติบโต 5-7% ขณะที่ตัวเลขกำไรคาดว่าจะต่ำกว่าเป้าที่วางไว้เล็กน้อย ซึ่งภาคอีสานที่มีสาขาของโฮมโปร ยอดตกลงประมาณ 8-9% มีเพียงภาคการท่องเที่ยวที่ดีขึ้น ภาคใต้ดี
โดยในปีนี้ได้ดำเนินการลงทุน 7,000-8,000 ล้านบาท เพื่อขยายสาขาให้ครอบคลุมมากขึ้น ทั้งในส่วนของโฮมโปร เปิดเพิ่ม 11 สาขา (สาขาโฮมโปร เปิด 3 สาขา และเมกาโฮม 8 สาขา) ทำให้ ณ ปัจจุบัน โฮมโปรมีสาขารวม 94 สาขาในประเทศไทย และ 7 สาขาในประเทศมาเลเซีย ส่วนเมกาโฮม มีสาขารวม 27 สาขา
นายวีรพนธ์ ยังกล่าวถึงภาพรวมเศรษฐกิจในปี 2567 ว่า จากที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ เศรษฐกิจน่าจะซึมไปจนถึงช่วงกลางปี และหลังจากนั้นต้องมาประเมินสถานการณ์อีกที เนื่องจากยังมีหลายปัจจัยที่ต้องเฝ้าติดตาม ล่าสุดเรื่องค่าไฟฟ้า ที่ค่าไฟงวดใหม่ต้นปี 2567 ที่จะปรับจาก 3.99 บาทต่อหน่วย เป็น 4.68 บาทต่อหน่วย ทำให้บริษัทต้องควบคุมค่าใช้จ่ายด้านค่าไฟฟ้าในแต่ละสาขามากขึ้น ขณะเดียวกัน ยังเป็นโอกาสรุกธุรกิจเรื่องพลังงานสะอาด โดยขยายธุรกิจ Home Solar ของบริษัทอีกด้วย ตรงนี้สินค้าของโฮมโปร เป็นแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ ลูกค้าจะได้รับบริการที่ดีและมีประสิทธิภาพต่อเนื่องระยะยาว ทางโฮมโปรมีบริการให้ลูกค้าผ่อน 0% ยาว 60 เดือน ช่วยลดภาระให้ลูกค้าของเรา จากเดิมที่ต้องเสียค่าไฟประมาณ 4,000-5,000 บาทต่อเดือน
"แม้ปีหน้าเศรษฐกิจยังไม่ดี แต่เราวางเป้าหมายเติบโตตามภาวะเศรษฐกิจร้อยละ 4-5 ซึ่งเรามองว่ายังเป็นปีที่มีโอกาส เนื่องจากรัฐบาลได้มีมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อภายในประเทศ ไม่ว่าจะการขับเคลื่อนด้วยนโยบายเงินดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท และโครงการ E-Refund ซึ่งเป็นโครงการที่รัฐบาลไทยจัดทำขึ้นเพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน โดยให้สิทธิแก่ประชาชนทั่วไปที่มีอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป มีรายได้เกิน 7 หมื่นบาทต่อเดือน หรือมีเงินฝากเกิน 5 แสนบาท สามารถลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจากการซื้อสินค้าและบริการมูลค่าไม่เกิน 5 หมื่นบาท ซึ่งเป็นโครงการที่โฮมโปรน่าจะได้รับประโยชน์ ยิ่งถ้าร้อนมาก สินค้าประเภทพัดลม แอร์จะมียอดขายที่ดีมาก และเป็นหนึ่งในกลุ่มสินค้าที่สร้างยอดขายให้โฮมโปร"
อย่างไรก็ตาม ในแผนธุรกิจในปี 67 นั้น โฮมโปรจะมีการปรับแผนธุรกิจให้สอดรับกับสภาพเศรษฐกิจและกำลังซื้อในตลาด โดยทีมงานได้จัดแผนงานค่อนข้างเยอะเพื่อรับมือเหตุการณ์ที่ต้องเผชิญในข้างหน้า เริ่มจาก การปรับปรุงเรื่องสินค้า (โปรดักต์) ให้ตรงกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายมากขึ้น ไม่ใช่ว่าเศรษฐกิจไม่ดีแล้ว ความต้องการจะหยุดลงทันที ยังมีแรงซื้ออยู่ แต่ขนาดของตลาดไม่ได้เติบโตขึ้น ทำให้โฮมโปรต้องหาวิธีเข้าไปช่วงชิงตลาดได้อย่างไรบ้าง เช่น การไปเติมสินค้าที่คิดว่าจะหนุนการเติบโตให้โฮมโปร ไม่ว่าจะเป็นสินค้าที่ใช้ภายในครัวเรือน
นอกจากนี้ ในเรื่องของขยายสาขาใหม่นั้น ปี 2567 เรามีความจำเป็นต้องทำให้สาขาดีขึ้นตลอดเวลา โดยจะใช้งบลงทุนประมาณ 5,000-6,000 ล้านบาท ในการเปิดสาขาใหม่อย่างน้อย 5 แห่ง และบางสาขาจะขยับเข้ามาใกล้เมืองมากขึ้น มีพื้นที่ต่างจังหวัด และหากทำเลไหนกำลังซื้อดี ขนาดของพื้นที่สาขาใหม่จะใหญ่ขึ้น และหากเศรษฐกิจดี หรือได้โลเกชันดีๆ จะเปิดสาขาใหม่เพิ่มได้ โดยในงบรวมดังกล่าวจะมีส่วนของลงทุนปรับปรุงสาขาโฮมโปร และเมกาโฮม รวม 10 สาขาประมาณ 800-1,000 ล้านบาท
"ทำเลในกรุงเทพฯ มีหลายทำเลที่เราสนใจ น่าเปิดสาขา แต่ติดข้อจำกัดในเรื่องของผังเมืองรวม ทำให้ไม่สามารถเพิ่มขนาดของสาขาได้ หรือแม้แต่ที่ดินแปลงในโซนกรุงเทพกรีฑา ไม่สามารถเปิดได้ ติดเรื่องผังเมืองเช่นกัน" นายวีรพนธ์ กล่าว
ในเรื่องการเพิ่มยอดใช้จ่ายผ่านบัตรโฮมการ์ดที่มีผู้ถือบัตรอยู่ประมาณ 7 ล้านสมาชิก จะนำข้อมูล (ดาต้า) ที่มีอยู่มากำหนดในเรื่องเป้าหมายทางการตลาดให้เหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจ ทำอย่างไรให้เกิดความต่อเนื่องในการใช้จ่ายผ่านบัตร โดยขณะนี้ยอดซื้อสินค้าต่อบิลอยู่ที่เกือบ 3,000 บาท หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 5%
ทุ่ม 40 ล้านบาท จัดงาน 'โฮมโปร เอ็กซ์โป' ส่งท้ายปี 66
นายวีรพันธ์ กล่าวถึงการจัดงาน "โฮมโปร เอ็กซ์โป ครั้งที่ 35" ว่า ทางโฮมโปรได้ทุ่มงบประมาณกว่า 40 ล้านบาท จัดมหกรรมชอปครั้งใหญ่ส่งท้ายปี ที่จะมีขึ้นตั้งแต่วันที่ 2 ถึง 10 ธันวาคม 2566 นี้ รวม 9 วัน ที่อิมแพค เมืองทองธานี ฮอลล์ 9-10 ในคอนเซ็ปต์ “ช้อปส่งความสุข แบบรักษ์โลก” ครั้งแรกของโฮมโปร ที่ผนึกกำลังกับแบรนด์ชั้นนำระดับโลก SCG เพื่อสร้างสังคมรักษ์โลก ด้วยการเปิดตัวสินค้า “Circular Product” ผลิตภัณฑ์รักษ์โลกที่ผลิตจากวัสดุเหลือใช้ ผลิตใหม่ในกระบวนการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ผู้บริโภคได้มีส่วนร่วมในการใช้ทรัพยากรอย่างมีคุณค่า ไม่ว่าจะเป็น SHOPPING BAG จากสายรัดพลาสติกขนส่งสินค้า กล่อง STACKO พลาสติกจากเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ชำรุด ถุงขยะจากพลาสติกฟิล์มยืดที่ใช้พันรอบสินค้า และกระเบื้อง TARA ที่มีส่วนผสมของสุขภัณฑ์เก่า และยังคงความครบครันของสินค้าเรื่องบ้านไว้ทุกแผนก และสิทธิพิเศษแบบรักษ์โลก ในแคมเปญ “แลกเก่าเพื่อโลกใหม่” เพียงนำของเก่ามาแลกซื้อของใหม่ในงาน (ที่ร่วมรายการ) รับทั้งส่วนลดและสิทธิผ่อนชำระ โดยคาดว่าในระยะข้างหน้ากลุ่มสินค้า Circular Product จะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้น 2-3% ได้
ภายในงานมีโปรโมชัน เช่น ลูกค้าโฮมการ์ด รับคูปองส่วนลดสูงสุด 1,500 บาท กดปุ๊บ..รับเลย ผ่าน HomePro Line Connect พิเศษเมื่อชอปในงานคู่กับบัตรเครดิตโฮมโปร วีซ่า แพลทินัม ลดและรับเพิ่มรวมสูงสุด 8% พร้อมใช้คะแนนตามเงื่อนไข แลกรับส่วนลด+รับเพิ่ม รวมสูงสุดถึง 28% พิเศษสะสมทุกยอดชอปต่อใบเสร็จ รับทันทีเครดิตเงินคืนเข้าโฮมโปรวอลเล็ต รวมสูงสุดกว่า 102,500 บาท (ต่อสมาชิก/ตลอดรายการ/ชอปได้ถึง 31 ธ.ค.66 นี้) พร้อมรับจัดเต็มความคุ้มค่าต่อเนื่อง เมื่อชอปสินค้าทีวี แอร์ ตู้เย็น เครื่องซักผ้า รับส่วนลดเพิ่มสูงสุดอีก 15% ตามเงื่อนไขที่ร่วมรายการ และเมื่อชอปสินค้าครบ 10,000 บาทขึ้นไป เฉพาะวันจันทร์-ศุกร์ รับสิทธิแลกซื้อบัตรสตาร์บัคส์ลด 50% และอีกหนึ่งสิทธิพิเศษที่พลาดไม่ได้กับโปรโมชันจากบัตรโฮมโปรเฟิร์สช้อยส์ “ซื้อปีนี้ จ่ายปีหน้า” บริการรูปแบบใหม่ ให้สิทธิผ่อนชำระ 0% นานสูงสุด 12 เดือน เริ่มงวดแรกปี 67 คาดว่าตลอดการจัดงาน 9 วันเต็มจะสร้างยอดขายเพิ่มส่งท้ายปีอีก 300 ล้านบาท