ลงทุนหุ้นนอกอย่างไร.. ไร้กังวลเรื่องภาษี

เมื่อเราจะเริ่มต้นนับหนึ่งกับการลงทุนใด ๆ ก็ตาม การคิด วิเคราะห์ พิจารณาทางเลือกในการลงทุน ไปจนถึงการตัดสินใจ ย่อมเป็นเรื่องที่นักลงทุนไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หรือมือเก๋าต่างให้ความสำคัญ 
 
ในปัจจุบัน ทางเลือกในการลงทุนมีอยู่มากมาย แต่สิ่งที่น่าสนใจคือการลงทุนในตลาดต่างประเทศ ที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากผู้ลงทุนไทย เพราะมีสินทรัพย์คุณภาพดีให้เลือกลงทุนได้หลากหลายประเภท ช่วยให้ผู้ลงทุนสามารถกระจายความเสี่ยง และบริหารจัดการพอร์ตลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น 
 
การลงทุนในตลาดต่างประเทศที่ได้รับความนิยมมากเป็นอันดับต้น ๆ คือ “หุ้นต่างประเทศ” ซึ่งดำเนินการได้หลายรูปแบบ อาจจะลงทุน โดยตรงด้วยตัวเอง ซึ่งต้องเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นต่างประเทศกับบริษัทหลักทรัพย์ หรือ โบรกเกอร์ ลงทุนผ่านกองทุนรวม กับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) หรือลงทุนใน DR (Depositary Receipt) ตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ ผ่านตลาดหุ้นไทย 
 
แต่ผู้ลงทุนในหุ้นต่างประเทศอาจจะกำลังสะดุด และมีความกังวลใจ เมื่อภาครัฐได้ประกาศเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่มีรายได้จากต่างประเทศ รวมไปถึงรายได้จากการลงทุนในหุ้นต่างประเทศ โดยมีแนวโน้มว่าจะเริ่มผลบังคับใช้ในช่วงต้นปี 2567 เพราะนั่นย่อมหมายถึงการมีภาระภาษีเพิ่มขึ้น จากการลงทุน 
 
DR จึงเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ เพราะกำไรจากการลงทุนได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้ เช่นเดียวกับการซื้อขายหุ้นไทย ช่วยให้ผู้ลงทุนสามารถลงทุนในหุ้นต่างประเทศได้ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องภาษี

DR ยังมีจุดเด่น ลงทุนง่าย ด้วยเงินบาท ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยผู้ออกหลักทรัพย์จะเป็นผู้ทำหน้าที่ซื้อหลักทรัพย์ต่างประเทศ และนำมาจดทะเบียนกับตลาดหลักทรัพย์ฯ ส่วนสิทธิประโยชน์และผลตอบแทนต่างๆ ยังได้รับเสมือนลงทุนในหุ้นต่างประเทศโดยตรง ทั้งเงินปันผลและกำไรจากส่วนต่างราคา โดยผู้ออกจะทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลสภาพคล่องให้กับนักลงทุนอีกด้วย

ธนาคารกรุงไทย เป็นหนึ่งในผู้นำในการออกหลักทรัพย์ DR ของประเทศไทย เพราะตระหนักถึงความสำคัญในการสร้างโอกาส เปิดประตูบานใหม่ในการลงทุนหุ้นต่างประเทศ เพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงินให้กับผู้ลงทุนไทย โดยได้เสนอขาย DR อ้างอิงบริษัทชั้นนำในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีที่มีโอกาสเติบโตสูง ในตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาและจีน เพื่อเป็นทางเลือกให้ผู้ลงทุนไทยรวม 12 หลักทรัพย์

DRx หุ้นสหรัฐอเมริกา 5 หลักทรัพย์ ประกอบด้วย แอปเปิล (AAPL80X) เทสลา (TSLA80X) ไมโครซอฟท์ (MSFT80X) อัลฟาเบท (GOOG80X) เอ็นวิเดีย (NVDA80X) 
DR หุ้นจีน 7 หลักทรัพย์ ประกอบด้วย เทนเซ็นต์ (TENCENT80) อาลีบาบา (BABA80) บีวายดี (BYDCOM80) เสียวหมี่ (XIAOMI80) เน็ตอีส (NETEASE80) ผิงอัน (PINGAN80) ไป่ตู้ (BIDU80)

สำหรับผู้สนใจ และมีบัญชีซื้อขายหุ้นอยู่แล้ว สามารถลงทุนผ่านทางแอปพลิเคชัน Streaming ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้แบบ Real time โดย DR หุ้นจีน สามารถซื้อขายได้ตามเวลาตลาดหลักทรัพย์ไทย แบบไม่มีพักกลางวัน บนกระดานหุ้นไทย และ DRx หุ้นสหรัฐอเมริกา ซื้อขายได้ตั้งแต่ 20.00-04.00 น. บนกระดาน DRx

ในกรณียังไม่มีบัญชีซื้อขายหุ้น สามารถเปิดบัญชีกับบริษัทหลักทรัพย์ได้ทุกแห่ง โดยกรุงไทยตอบโจทย์ผู้ลงทุนยิ่งขึ้น อำนวยความสะดวกเปิดบัญชีซื้อขายทั้ง DR และ DRx กับบริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง (KTX) ผ่านแอปพลิเคชัน Krungthai NEXT ศึกษาละเอียดเพิ่มเติมที่ www.krungthai.com หรือ Krungthai Contact Center โทร. 02-111-1111

(Advertorial)