ตลาดหุ้นเอเชียปรับบวกเป็นส่วนใหญ่ ขณะบอนด์ยิลด์ชะลอตัว

ตลาดหุ้นเอเชียเปิดบวกเป็นส่วนใหญ่ในวันนี้ ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลในภูมิภาคเอเชียปรับตัวลงในช่วงเช้านี้ ส่วนตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทำการซื้อขายในวันพฤหัสบดี (23 พ.ย.) เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า และจะทำการซื้อขายเพียงครึ่งวันในวันนี้

ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดที่ระดับ 33,752.05 จุด เพิ่มขึ้น 300.22 จุด หรือ +0.90% โดยได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มส่งออกหลังเงินเยนอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ และบรรยากาศการซื้อขายดีขึ้นก่อนอิสราเอลและฮามาสหยุดยิงเป็นเวลา 4 วัน

ขณะที่ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียดีดตัวขึ้น 0.27% และดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้บวก 0.2%

ส่วนดัชนีฮั่งเส็งเปิดตลาดที่ระดับ 17,771.75 จุด ลดลง 139.09 จุด หรือ -0.78% ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตเปิดตลาดที่ระดับ 3,060.33 จุด ลดลง 1.53 จุด หรือ -0.05%

ราคาน้ำมันปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัสประกาศว่า การประชุมกำหนดนโยบายการผลิตน้ำมันซึ่งถูกเลื่อนไปเป็นวันที่ 30 พ.ย. จากเดิมวันที่ 25-26 พ.ย.นั้น จะเป็นการประชุมแบบออนไลน์ แทนการจัดประชุมแบบพบปะกัน โดยประเทศสมาชิกในกลุ่มโอเปกพลัสกำลังถกเถียงกันเกี่ยวกับปริมาณการผลิตน้ำมัน ท่ามกลางราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงอย่างมากในขณะนี้

นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของญี่ปุ่นในช่วงเช้านี้ ซึ่งรวมถึงอัตราเงินเฟ้อเดือน ต.ค. และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการขั้นต้นเดือน พ.ย.ของญี่ปุ่นจาก Jibun Bank

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาความเคลื่อนไหวในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีนอย่างใกล้ชิด หลังจากรัฐบาลได้ออกมาตรการต่างๆ เพื่อสนับสนุนบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในสัปดาห์นี้ โดยเทศบาลนครเซินเจิ้นประกาศลดข้อกำหนดการจ่ายเงินดาวน์สำหรับผู้ซื้อบ้านหลังที่ 2 ขณะที่รัฐบาลจีนกำลังร่างรายชื่อบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 50 รายที่มีคุณสมบัติที่จะสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนจากธนาคารพาณิชย์ของจีนได้อย่างรวดเร็ว โดยบริษัทเหล่านี้อาจรวมถึงคันทรี การ์เดน โฮลดิงส์ ซิโน-โอเชียน กรุ๊ป และไชน่า ว่านเคอ