หุ้นปิดเช้าลบ 13.95 จุด นักวิเคราะห์ฯ กล่าวว่า ตลาดหุ้นเช้านี้ปรับตัวลงตามตลาดภูมิภาค กลับมากังวลเฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยหากเงินเฟ้อยังไม่ลดหรือลดลงช้า ขณะที่ยังไร้เม็ดเงินใหม่เข้ามาและต่างชาติยังขายต่อเนื่อง ส่งผลให้วอลุ่มบางเหลือแค่วันละ 3 หมื่นล้านบาท รวมถึงการจับตาธุรกรรม Naked Short Sell ทำให้การเล่น Short หายไปจากตลาดค่อนข้างมาก
นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นช่วงเช้าปรับลงตามตลาดหุ้นภูมิภาค หลังจากตลาดกลับมากังวลรายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) บ่งชี้ว่าถ้าเงินเฟ้อไม่ลง หรือลงช้า เฟดอาจจะต้องขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งเป็นเรื่องเดิมที่กลับมากดดันอีกครั้ง
อีกทั้งตลาดหุ้นไทยเผชิญแรงขายของนักลงทุนต่างชาติอย่างต่อเนื่อง และไม่มีเม็ดเงินลงทุนใหม่เข้ามา โดยจะเห็นว่ามูลค่าซื้อขายเบาบางมากอยู่ที่แค่ 3 หมื่นล้านบาท/วันตั้งแต่ต้นสัปดาห์ จากปกติอยู่ที่ราว 4-5 หมื่นล้านบาท/วัน และยังเจอปัจจัยลบจากที่ทางการจับตาเข้มงวด Naked Short Sell ทำให้ธุรกรรม Short และ Cover Short หายไปมาก เพราะนักลงทุนกังวล ส่งผลให้วอลุ่มหดหายไปราวหมื่นล้านบาท
นายศราวุธ กล่าวว่า เช้านี้ตลาดหันมาเล่นหุ้นแปลกๆ อย่าง JKN OTO เป็นต้น และไม่มีหุ้นตัวใหญ่ให้เล่น เพราะภาวะตลาดขาดเม็ดเงินใหม่
อย่างไรก็ตาม มองว่าประเด็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดเพื่อกดเงินเฟ้อไม่ได้น่ากังวลมากนัก เพราะตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯ ชะลอตัว ส่วนราคาน้ำมันไม่น่าปรับขึ้นแรง เพราะคาดว่าในการประชุมกลุ่มโอเปกที่จะพิจารณาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันนั้น ซาอุดีอาระเบีย ผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ไม่น่าจะปรับลดกำลังการผลิตลงได้มากแล้ว
ด้านภาวะตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,409.66 จุด ลดลง 13.95 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.96% มูลค่าซื้อขายราว 19,000 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายให้แนวรับ 1,405 จุด แนวต้าน 1,425-1,430 จุด แนะเล่นเทรดสั้นรอเม็ดเงินใหม่จากกองทุน TESG ต้น ธ.ค.