xs
xsm
sm
md
lg

GTV ขายโรงไฟฟ้า 477 ล้าน แตกไลน์สู่ Green & Technology

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



"กรีนเทค เวนเจอร์ส" ประกาศปรับโครงสร้างธุรกิจ ขายโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดกำลังการผลิตรวม 12.95 เมกะวัตต์ รับทรัพย์ 477.07 ล้านบาท ระบุเตรียมนำเงินแตกไลน์ธุรกิจใหม่เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม พร้อมเดินหน้าสู่ Green & Technology ผลักดันผลงานปี 67 เทิร์นอะราวนด์ พร้อมวางเป้ารายได้ 2-3 ปีข้างหน้า (67-69) เติบโตปีละ 10-15%

นายพลดลพัฒน์ ธัชทัณฑิมารัชต์ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรีนเทค เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) (GTV) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท (เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2566) มีมติอนุมัติปรับโครงสร้างธุรกิจภายในกลุ่มบริษัท โดยอนุมัติจำหน่ายธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทย ของบริษัท พาราโบลิก โซลาร์พาวเวอร์ จํากัด (PSP) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 99.99 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของ PSP ให้บริษัท บีเอสอี เพาเวอร์ โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) วงเงิน 477,070,000 บาท ซึ่งจะมีการลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นดังกล่าวภายในเดือน พ.ย.นี้

ทั้งนี้ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ประกอบด้วย โครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินสำหรับหน่วยงานราชการและสหกรณ์ภาคการเกษตร ได้แก่ โครงการสหกรณ์การเกษตรศรีธาตุ จำกัด กำลังการผลิต 5 เมกะวัตต์ โครงการของสหกรณ์การเกษตรวิเชียรบุรี จํากัด กำลังการผลิต 1.75 เมกะวัตต์ สหกรณ์การเกษตรกะทูน จํากัด กำลังการผลิต 1.20 เมกะวัตต์ โครงการของสหกรณ์ผู้ผลิตและใช้ปุ๋ยอินทรีย์ อำเภอกระแสสินธุ์ จำกัด กำลังการผลิต 5 เมกะวัตต์ กำลังการผลิตรวม 12.95 เมกะวัตต์

“การขายโรงไฟฟ้าดังกล่าวจะทำให้บริษัทมีเงินทุนสำหรับลงทุนในธุรกิจอื่นที่สามารถเพิ่มโอกาสในการเติบโตของรายได้ในอนาคต แต่เน้นเป็นเทคโนโลยีสีเขียว และมีความยั่งยืน สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของบริษัท Green & Technology นอกจากนี้ ทำให้มีโอกาสสร้างรายได้ให้บริษัทมากกว่าธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันมีการแข่งขันที่สูง อีกทั้งจะช่วยควบคุมค่าใช้จ่ายและงบประมาณในการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ” นายพลดลพัฒน์ กล่าว

นายพลดลพัฒน์ กล่าวต่อว่า แผนการใช้เงินที่ได้รับจากการขาย บริษัทจะนำเงินที่ได้เป็นเงินสำรองเพื่อการลงทุนในโครงการในอนาคตซึ่งเป็นเทคโนโลยีสีเขียว ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีความสนใจในการลงทุนในโครงการ Critical Minerals andmetals เพื่อการปฏิวัติการผลิตพลังงานสะอาด การลงทุนสำหรับโซ่อุปทานสีเขียว (Green Supply Chain) การพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า distributed energy solution, blockchain และ carbon credit เป็นต้น อย่างไรก็ตามคาดว่าจะเห็นการเข้าลงทุนในไตรมาสแรกปี 2567

สำหรับเป้าหมายและทิศทาง GTV จะเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดีแน่นอน โดยจะเร่งสร้างธุรกิจที่มีความเชื่อมโยงของทุกธุรกิจ ทั้งการลงทุนในธุรกิจด้านเทคโนโลยี รวมถึงธุรกิจที่ไม่กระทบต่อสิ่งแวดล้อม ภายใต้วิสัยทัศน์ Green & Technology ควบคู่การบริหารต้นทุน และเชื่อว่าธุรกิจใหม่จะสร้างรายได้ที่ยั่งยืนในอนาคต เพราะมีความมั่นคงในด้านรายรับ มีมูลค่าสูง รวมทั้งผลตอบแทนที่ผู้ถือหุ้นจะได้รับด้วย พร้อมกันนี้ ได้วางเป้าหมายผลการดำเนินงานในปี 2567 จะเทิร์นอะราวนด์ และตั้งเป้าใน 3 ปีข้างหน้า (2567-69) จะเห็นการเติบโตปีละ 10-15%

“การที่เข้ามารับตำแหน่ง (เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2566) ได้ประชุมหารือและวางกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ เรามีเป้าหมายในการเดินตามคอนเซ็ปต์เทคโนโลยีสีเขียว การสร้างและพัฒนานวัตกรรมด้านเทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อมทุกรูปแบบ รวมทั้งการขยายธุรกิจใหม่ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการสร้างรายได้และกำไรอย่างยั่งยืน และยังเป็นการสร้างผลตอบแทนที่ดีให้ผู้ถือหุ้นในอนาคต” นายพลดลพัฒน์ กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น