xs
xsm
sm
md
lg

เปิด Top 10 อสังหาฯ Q3/66 รายได้-กำไรสูงสุด “เอพีฯ-แสนสิริ” ยึดเบอร์ 1-2

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ในขณะที่บริษัทอสังหาริมทรัพย์รายเล็กและรายกลางทั่วประเทศเริ่มมีสัญญาณเป็นบวก หลังจากการท่องเที่ยวกลับมาขยายตัวในปี 66 นี้ ขณะที่บริษัทอสังหาฯที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ส่วนใหญ่ฟื้นตัวแล้วตั้งแต่ในช่วงกลางปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะกลุ่มบริษัทอสังหาฯ ที่ทำตลาดหลักอยู่ในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล ซึ่งสามารถฟื้นตัวได้ดีกว่าตลาดต่างจังหวัด

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าบริษัทอสังหาฯ ในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล จะมีการฟื้นตัวที่ดีกว่าอสังหาฯ ในต่างจังหวัด แต่การขยายตัวของบริษัทที่อยู่ใน ตลท.ไม่ได้ดีมากนัก เพราะปัจจัยลบที่เข้ามากระทบตลาดรวมมีหลายตัวมาก เช่น ดอกเบี้ยขาขึ้น ต้นทุนก่อสร้างสูงขึ้น หนี้ครัวเรือนยังอยู่ในระดับสูง ภาวะสงครามที่กระทบต่อต้นทุนพลังงานซึ่งส่งผลต่อต้นทุนสินค้า และการหดตัวของกำลังซื้อลูกค้าในปัจจุบัน

ปัจจัยเหล่านี้ทำให้บริษัทอสังหาฯ รายใหญ่และรายกลางที่จดทะเบียนใน ตลท. ขยายตลาดไปจับกลุ่มที่อยู่อาศัยแนวราบมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มที่อยู่อาศัยบ้านเดี่ยวในตลาดระดับบน ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัว ทำให้กลุ่มบริษัทอสังหาฯ รายใหญ่ที่จดทะเบียนใน ตลท. กลายเป็นกลุ่มที่สร้างรายได้ และกำไรได้ดีที่สุดในช่วง 3 ไตรมาสที่ผ่านมา และมีแนวโน้มว่าจะยังมียอดขาย รายได้ และกำไรสูงที่สุดในอุตสาหกรรม

ทั้งนี้ จากการจัดเก็บข้อมูลผลประกอบการบริษัทอสังหาฯที่จดทะเบียนในตลาดหุ้น ของบริษัท แอล ดับเบิลยู เอส วิสดอม แอนด์ โซลูชั่น จำกัด (LWS) บริษัทวิจัยและที่ปรึกษาในการพัฒนาอสังหาฯในเครือบริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (LPN) พบว่า  ทั้ง 39 บริษัทอสังหาฯ มีรายได้และกำไรไตรมาส 3 ปี 66 ลดลง (YoY) 2.9% และ 19.82% ตามลำดับ

นายประพันธ์ศักดิ์ รักษ์ไชยวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัทแอล ดับเบิลยู เอส วิสดอม แอนด์ โซลูชั่น จำกัด (LWS) กล่าวว่า จากการสำรวจผลดำเนินงานของบริษัทอสังหาฯ ที่จดทะเบียนใน ตลท. จำนวน 39 บริษัทในไตรมาสนี้ พบว่า มีรายได้และกำไรลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน

โดยในไตรมาสนี้ 39 อันดับแรกของบริษัท อสังหาฯ ใน ตลท. มีรายได้รวมที่ 80,902.44 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 8,879.07 ล้านบาท ลดลง 2.9% และ 19.82% ตามลำดับเมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 65 โดยมีความสามารถในการทำกำไรเฉลี่ยของ 39 บริษัทอยู่ที่ 10.97% ลดลงจาก 12.93% ในไตรมาส 3 ของปี 65

ในขณะที่ผลประกอบการ 9 เดือนแรกของปี 66 ของ 39 อันดับบริษัทอสังหาฯ มีรายได้เพิ่มขึ้น 1.37% เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปี 65 ในขณะที่กำไรสุทธิ ลดลง 6.37% เมื่อเทียบกับ 9 เดือนแรกของปี 65 โดยมีรายได้รวม 234,743.77 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.37%จากระยะเดียวกันของปี 65 และมีกำไรสุทธิ 9 เดือนแรกปี 66 ที่ 27,948.14 ลดลง 6.37% จากระยะเดียวกันของปี 65 โดยมีความสามารถในการทำกำไรเฉลี่ย 11.90% ลดลงจาก 12.93% ใน 9 เดือนแรกของปี 65 โดยสินค้าคงเหลือและสินค้าที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างเพิ่มขึ้น 3.81% (QoQ) สินค้าคงเหลือ บวกกับสินค้าที่อยู่ระหว่างการพัฒนาของบริษัทอสังหาฯ ทั้ง 39 บริษัท ณ วันที่ 30 ก.ย.66 อยู่ที่ 663,188.48 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.81% เมื่อเทียบกับ ณ วันที่ 30 มิ.ย.66 ที่มีสินค้าคงเหลือที่ 638,860 ล้านบาท

ประพันธ์ศักดิ์ รักษ์ไชยวรรณ
นายประพันธ์ศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับบริษัทอสังหาฯ ที่มีรายได้และกำไรเติบโตมากที่สุดในตลาดคือ บริษัท เอพี ไทยแลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ AP ซึ่งเป็นผู้นำทั้งรายได้และกำไรในไตรมาส 3 และ 9 เดือนแรกปี 66 โดยผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปี 66 นี้ AP มีอัตราการเติบโตที่ดีมาก โดยมีรายได้รวมจากสินค้ากลุ่มแนวราบ กลุ่มคอนโดมิเนียม (100% JV) และธุรกิจอื่นๆ ได้สูงถึง 37,141 ล้านบาท กำไรสุทธิเท่ากับ 4,719 ล้านบาท ทั้งนี้ ณ ไตรมาส 3 บริษัท AP สามารถสร้างรายได้รวมจากสินค้ากลุ่มแนวราบ กลุ่มคอนโดมิเนียม (100% JV) และธุรกิจอื่นๆ ได้สูงถึง 13,285 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่มีรายได้รวมเท่ากับ 12,290 ล้านบาท และในด้านกำไรสุทธิ AP มีกำไรสุทธิที่ 1,697 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่มีกำไรสุทธิรวมเท่ากับ 1,418 ล้านบาท สูงถึง 19.6%

การเติบโตของรายได้และกำไรดังกล่าวเป็นผลมาจากสินค้ากลุ่มแนวราบอย่างทาวน์โฮมและบ้านเดี่ยว ที่ถือเป็นคีย์ไดรฟ์สำคัญของ AP ทำให้สามารถเติบโตทั้งรายได้และกำไรอย่างแข็งแกร่ง ประกอบกับสินค้ากลุ่มคอนโดมิเนียมเริ่มกลับมาฟื้นตัวได้ดีขึ้นในไตรมาส 3 โดยกลุ่มธุรกิจคอนโดฯ เริ่มทยอยรับรู้รายได้จากทั้งโครงการใหม่ คือ ASPIRE ปิ่นเกล้า-อรุณอมรินทร์ และ THE ADDRESS สยาม-ราชเทวี 
ตลอดจน 7 คอนโดฯ พร้อมอยู่ที่ทยอยรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ AP ยังต่อยอดตลาดในไตรมาสสุดท้ายนี้ โดยการเตรียมเปิดตัว 23 โครงการใหม่ มูลค่ารวมประมาณ 35,740 ล้านบาท โดยเป็นทาวน์โฮม 11 โครงการ มูลค่า 11,050 ล้านบาท บ้านเดี่ยว 9 โครงการ มูลค่า 16,450 ล้านบาท คอนโดมิเนียม 2 โครงการ มูลค่า 7,300 ล้านบาท และโครงการต่างจังหวัด 1 โครงการ มูลค่า 940 ล้านบาท ส่งผลให้โค้งสุดท้ายของปีนี้บริษัทจะมีโครงการพร้อมขายทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดมากกว่า 169 โครงการ มูลค่ากว่า 130,630 ล้านบาท

TOP 10 อสังหาฯ ที่มีรายได้รวมมากสุดของไตรมาส 3

สำหรับบริษัทอสังหาฯ ที่มีรายได้รวมมากที่สุด 10 อันดับแรกในไตรมาสที่ 3/66 โดย 10 อันดับแรกของบริษัทอสังหาฯ มีรายได้รวมอยู่ที่ 61,631.63 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 76.18% ของรายได้รวมของ 39 บริษัทอสังหาฯ ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในขณะที่กำไรของ Top 10 บริษัอสังหาฯ อยู่ที่ 9,728.79 ล้านบาท สูงกว่ากำไรรวม 39 บริษัทอสังหาฯ ที่มีกำไรสุทธิรวม 8,879.07 ล้านบาท เนื่องจากมีบริษัทจดทะเบียนที่ขาดทุนสุทธิทั้งสิ้น 12 บริษัทจาก 39 บริษัท

โดย 10 อันดับแรกของบริษัทอสังหาฯ ที่มีรายได้สูงสุดในไตรมาสที่ 3/66 ประกอบด้วย อันดับ 1 บริษัท เอพี ไทยแลนด์ จำกัด (มหาชน) โดยมี รายได้ 10,089.84 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 1,696.54 ล้านบาท 2.บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) มีรายได้ 9,554.51ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 1,501.49 ล้านบาท 3. ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) มีรายได้ 7,192.09 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 1,203.52 ล้านบาท 4.บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) มีรายได้ 6,928.48 กำไรสุทธิ 1,197.27 ล้านบาท 5.บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) มีรายได้ 6,235.01 และมีกำไลสุทธิ 479.94 ล้านบาท

6.บริษัท เอสซี แอสเสท จำกัด (มหาชน) มีรายได้ 5,533ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 503.83 ล้านบาท 7.บริษัท ออริจิน พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) มีรายได้ 5,237.82 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 1,147.91 ล้านบาท 8.บริษัท เฟรเซอร์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) มีรายได้ 5,211.45 ล้านบาท กำไรสุทธิ 829.07 ล้านบาท 9.บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) มีรายได้รวม 3,229.02 ล้านบาทและมีผลการดำเนินขาดทุน -91.23 ล้านบาท 10.บริษัทคอวลิตี้ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) มีรายได้ 2,420.41 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 633.73 ล้านบาท


Top 10 บริษัทที่มีส่วนแบ่งรายได้รวม 9 เดือนสูงสุด

สำหรับ Top 10 บริษัทที่มีส่วนแบ่งรายได้รวม 9 เดือนแรกปี 66 สูงที่สุดมีรายได้รวมที่ 178,397.80 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 75.99% ของรายได้ 39 บริษัทอสังหาฯ ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยในส่วนของกำไรของ Top 10 บริษัอสังหาฯ รวมในช่วง 9 เดือนแรกของปี 66 อยู่ที่ 28,433.77 ล้านบาท สูงกว่ากำไรรวม 39 บริษัทอสังหาฯ ที่มีกำไรสุทธิรวม 27,948.14 ล้านบาท เนื่องจากมีบริษัทจดทะเบียนที่ขาดทุนสุทธิทั้งสิ้น 15 บริษัทจากจำนวน 39 บริษัท 

โดย บมจ.เอพี ไทยแลนด์ ยังคงเป็นบริษัทที่มีรายได้สูงสุดของอุตสาหกรรมในรอบ 9 เดือน โดยมีรายได้รวม 9 เดือนอยู่ที่ 28,921.13 ล้านบาท รองลงมาคือ บมจ.แสนสิริ มีรายได้รวม 28,046.74ล้านบาท อันดับ 3. บมจ.ศุภาลัย มีรายได้รวม 21,537.79 ล้านบาท 4.บมจ.แลนด์แอนเฮ้าส์ มีรายได้รวม 21,288.5ล้านบาท 5.บมจ.พฤกษา โฮลดิ้ง มีรายได้รวม 19,900.38 ล้านบาท 

6.บมจ.เอสซีแอสเสท มีรายได้รวม 15,668.69 ล้านบาท 7.บมจ.เฟรเซอร์ พร็อพเพอร์ตี้ มีรายได้รวม 13,103.15 ล้านบาท 8.บมจ.ออริจิ้น พร็พเพอร์ตี้ มีรายได้รวม 12,685.64 ล้านบาท 9.บมจ.สิงห์ เอสเตท มีรายได้รวม 10,071.74 ล้านบาท และ 10.บมจ. พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค มีรายได้รวม 7,174.04 ล้านบาท

ส่วน Top 10 อสังหาฯ ที่มีกำไรสุทธิสูงสุด Q3/66

ส่วน Top 10 ของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่มีกำไรสูงสุดไตรมาส 3/66 ประกอบด้วย 1.บมจ.เอพี ไทยแลนด์ โดยมีกำไรสุทธิ 1,696.54 ล้านบาท 2.บมจ.แสนสิริ กำไรสุทธิ 1,501.49 ล้านบาท อันดับ 3.บมจ.ศุภาลัย มีกำไรสุทธิ 1,203.52 ล้านบาท 4.บมจ.แลนด์แอนเฮ้าส์ มีกำไรสุทธิ 1,197.27 ล้านบาท 5.บมจ.ออริจิ้น พร็พเพอร์ตี้ มีกำไรสุทธิ 1,147.91 ล้านบาท

6.บมจ.เฟรเซอร์ พร็อพเพอร์ตี้ มีกำไรสุทธิ 829.07 ล้านบาท 7.บมจ.ควอลิตี้ เฮ้าส์ มีกำไรสุทธิ 633.73 ล้านบาท 8.บมจ.โนเบิล ดีเวลลอปเม้นท์ มีกำไรสุทธิ 534.79 ล้านบาท 9.บมจ.บมจ.เอสซีแอสเสท มีกำไรสุทธิ 503.83 ล้านบาท และ 10.บมจ. พฤกษา โฮลดิ้ง มีกำไรสุทธิ 479.94 ล้านบาท


TOP 10 อสังหาฯ กำไรสุทธิสูงที่สุด 9 เดือนแรก

สำหรับ Top 10 ของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่มีกำไรสูงสุดของ 9 เดือนแรกของปี 66 ประกอบด้วย 1.บมจ.เอพี ไทยแลนด์ โดยมีกำไรสุทธิ 4,719.16 ล้านบาท 2.บมจ.แสนสิริ กำไรสุทธิ 1,501.49 ล้านบาท อันดับ 3.บมจ.ศุภาลัย มีกำไรสุทธิ 4,027.65 ล้านบาท 4.บมจ.แลนด์แอนเฮ้าส์ มีกำไรสุทธิ 4,003.47 ล้านบาท 5.บมจ.ออริจิ้น พร็พเพอร์ตี้ มีกำไรสุทธิ 3,063.19 ล้านบาท 6.บมจ.พฤกษา โฮลดิ้ง มีกำไรสุทธิ 2,210.46 ล้านบาท 7.บมจ.ควอลิตี้ เฮ้าส์ มีกำไรสุทธิ 1,895.55 ล้านบาท 8.บมจ.เอสซีแอสเสท มีกำไรสุทธิ 1,638.17 ล้านบาท 9.บมจ.เฟรเซอร์ พร็อพเพอร์ตี้ มีกำไรสุทธิ 1,543.5 ล้านบาท และ10.บมจ.แอสเซทไวส์ มีกำไรสุทธิ 720.29 ล้านบาท

เป็นที่น่าสังเกตว่า 5 อันดับแรกที่ครองแชมป์รายได้และกำไรสุทธิสูงสุดของตลาดอสังหาฯ ยังคงวนเวียนอยู่ในมือของ 4 บริษัทยักษ์ใหญ่ คือ บริษัท เอพี ไทยแลนด์ จำกัด (มหาชน) บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง 
จำกัด (มหาชน) 

โดย 2 อันดับแรกที่ขยับขึ้นมามีแชร์ตลาดและมีรายได้สูงสุดคือ เอพี ไทยแลนด์ และ แสนสิริ ซึ่งขยับขึ้นมาแทนที่พี่ใหญ่อย่างแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ และพฤกษาฯ โดยมีศุภาลัยเพียงรายเดียวที่สามารถยึดตำแหน่งอันดับ 3 ได้ในทุกรายการ














กำลังโหลดความคิดเห็น