เจริญอุตสาหกรรม กางงบไตรมาส 3 กวาดรายได้ 515.69 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% และกำไรสุทธิ 38.88 ล้านบาท เหตุคุณภาพสินค้ามีมาตรฐานลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำเพิ่มขึ้น และต่อเนื่อง ผู้บริหารเผยระบุช่วงที่เหลือของปีลุยขยายตลาดในประเทศตอบรับนโยบายฟรีวีซ่า คาดสนับสนุนรายได้โตแกร่ง มุ่งมั่นขยายฐานลูกค้ารายใหม่ หนุนผลงานเติบโตยั่งยืน
นายศักดา ศรีแสงนาม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจริญอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) (CH) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาส 3/2566 (สิ้นสุด 30 กันยายน 2566) มีรายได้จากการขาย 515.69 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45.58 ล้านบาท หรือ 10% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้ 470.11 ล้านบาท ขณะเดียวกันบริษัทมีกำไรจากการดำเนินงานที่ 50.66 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิสำหรับงวดอยู่ที่ 38.88 ล้านบาท
"ยอดขายในไตรมาส 3/2566 เพิ่มขึ้นจากลูกค้ารายเดิมที่กลับมาซื้อซ้ำ เนื่องมาจากในช่วงไตรมาส 2/2566 เป็นฤดูกาลซื้อขายผลไม้อบแห้ง การแข่งขันด้านราคาของตลาดผลไม้อบแห้งสูงขึ้น และมีคู่แข่งรายใหม่ในตลาดเพิ่มขึ้น ทำให้ลูกค้าในประเทศบางรายเลือกซื้อสินค้ากับผู้ขายรายอื่นที่มีราคาต่ำกว่าบริษัท และถึงแม้ว่าราคาสินค้าของบริษัทอาจสูงกว่าคู่แข่งบางราย แต่ด้วยคุณภาพสินค้าที่ยังคงตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค ดังนั้น ในช่วงไตรมาส 3/2566 ลูกค้าจึงกลับมาซื้อผลิตภัณฑ์ของบริษัทเพิ่มขึ้นและยังคงซื้ออย่างต่อเนื่อง" นายศักดา กล่าว
ทั้งนี้ ในส่วนโครงสร้างรายได้สามารถแบ่งเป็น 3 กลุ่มใหญ่ประกอบด้วย 1.กลุ่มผลิตภัณฑ์ผลไม้อบแห้ง อยู่ที่ประมาณ 89.56% 2.กลุ่มผลิตภัณฑ์ปลากระป๋อง อยู่ที่ประมาณ 8.36% และ 3.กลุ่มผลิตภัณฑ์ขนมเพื่อสุขภาพ อยู่ที่ประมาณ 0.6% และรายได้อื่นๆ อยู่ที่ประมาณ 1.48%
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในช่วงที่เหลือของปี เตรียมบุกทำการตลาดในประเทศเพิ่มขึ้น โดยบริษัทคาดหวังว่าจากการที่รัฐบาลไทยประกาศนโยบายฟรีวีซ่าให้กลุ่มนักท่องเที่ยว ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายของ CH ในช่วง High Season ของปีนี้ จะส่งผลดีต่อรายได้ของบริษัท ขณะเดียวกันบริษัทยังคงเข้าร่วมงานแสดงสินค้าอย่างต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ โดยในไตรมาส 4 ปีนี้มีกำหนดการเข้าร่วมงาน PLMA’s 2023 Chicago ที่ ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ ขยายฐานรายได้ และมุ่งมั่นสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงต่อไป
