xs
xsm
sm
md
lg

ก.ล.ต.นับหนึ่งไฟลิ่ง NAT ขาย IPO 92 ล้านหุ้น เข้าเทรด mai

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์




ก.ล.ต. นับหนึ่งไฟลิ่ง "แนท แอบโซลูท เทคโนโลยีส์" เตรียมขายไอพีโอ 92 ล้านหุ้น เข้าตลาดหลักทรัพย์ mai เสริมศักยภาพการเติบโตธุรกิจ เพิ่มโอกาสการเข้ารับงานโครงการภาครัฐ-เอกชน

นายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM ในฐานะที่ปรึกษาการเงิน บริษัท แนท แอบโซลูท เทคโนโลยีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ NAT เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เริ่มนับหนึ่งแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ หรือไฟลิ่ง เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งแรกต่อประชาชน (IPO) ของ NAT เมื่อวันที่ 10 พ.ย. 66 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

นาฝ ส.มธุรส สาราณียะธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) ในฐานะที่รึกษาทางการเงิน กล่าวเสริมว่า ปัจจุบัน แนท แอบโซลูท เทคโนโลยีส์ หรือ NAT มีทุนจดทะเบียน 164 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท และมีทุนที่เรียกชำระแล้ว 118 ล้านบาท โดยจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 92 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 28.05% ของจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดที่ออกและจำหน่ายแล้วของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญในครั้งนี้ จะนำหุ้นสามัญทั้งหมดเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ในหมวดธุรกิจ เทคโนโลยี (TECH)

นายสุธี อภิชนรัตนกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แนท แอบโซลูท เทคโนโลยีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ NAT กล่าวถึงการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ถือเป็นก้าวสำคัญของบริษัทในการเสริมสร้างศักยภาพทางการเงิน เพื่อขยายธุรกิจให้มีความแข็งแกร่ง และเพิ่มโอกาสการเข้ารับงานโครงการต่างๆ ที่มีแนวโน้มความต้องการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่มากขึ้นในอนาคต

NAT เป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน Infratech ในส่วนงานโครงสร้างระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร บริการด้านเทคโนโลยีครบวงจรแก่องค์กรชั้นนำของประเทศ โดยบริษัทแบ่งการให้บริการออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ 1.ธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์พร้อมติดตั้ง และรับเหมาวางระบบที่เกี่ยวข้องกับระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Information and Communication Technology System Integration) และ 2.ธุรกิจให้บริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เช่น บริการเจ้าหน้าที่ไอที (IT Outsourcing) บริการเดินสายระบบเน็ตเวิร์ก (Cabling System) บริการงานด้านระบบภายในอาคาร (Mechanical and Electric : M&E) และบริการให้เช่าเครื่องพิมพ์เอกสาร เครื่องถ่ายเอกสาร เครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก เป็นต้น โดยในปี 2563 ถึงงวด 6 เดือน ปี 2566 บริษัทมีสัดส่วนกลุ่มลูกค้าภาครัฐอยู่ประมาณ 66.54-89.34% และภาคเอกชนอยู่ประมาณ 10.66-33.46% ของรายได้จากการขายและบริการ

ทั้งนี้ บริษัทมุ่งเน้นดำเนินตามแผนเพื่อสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยการนำเทคโนโลยีชั้นนำจากพันธมิตรทางธุรกิจระดับโลกมาใช้ในการพัฒนาโซลูชัน และ บริการที่ดีที่สุด เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า และสนับสนุนให้ลูกค้ามีความพร้อมในการขับเคลื่อนธุรกิจไปสู่ยุคเทคโนโลยีดิจิทัล โดยมีเป้าหมายการขยายกลุ่มลูกค้าเพิ่มขึ้นทั้งภาครัฐและเอกชน เช่น กลุ่มโรงพยาบาล และกลุ่มพลังงาน

นอกจากนี้ บริษัทยังเล็งเห็นถึงความสำคัญของเทคโนโลยีการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cybersecurity) โดยเตรียมความพร้อมพัฒนาระบบดังกล่าวเพื่อให้บริการแก่กลุ่มลูกค้า ทั้งการคำปรึกษา ออกแบบ จัดหา จำหน่ายอุปกรณ์พร้อมติดตั้ง และวางระบบที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยทางเครือข่ายองค์กร เพื่อการเก็บรักษาข้อมูลที่ปลอดภัย ป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์ที่มีความซับซ้อน และลดความเสี่ยงจากภัยคุกคามที่อาจมีผลกระทบต่อระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของธุรกิจ

สำหรับผลประกอบการตลอดช่วง 3 ปีที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้รวมในปี 2563-2565 อยู่ที่ 492.64 ล้านบาท 451.36 ล้านบาท และ 1,093.23 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 56.78 ล้านบาท 26.68 ล้านบาท และ 100.62 ล้านบาท ตามลำดับ และในงวด 6 เดือนแรกของปี 2566 รายได้รวม 788.25 ล้านบาท กำไรสุทธิ 65.48 ล้านบาท


กำลังโหลดความคิดเห็น