"เอพี ไทยแลนด์" ชี้ตลาดคอนโดฯ เริ่มฟื้นตัว ผู้ประกอบการเริ่มสร้างฐานใหม่หลังโควิดคลี่คลาย พร้อมโชว์ความแกร่งยอดขายสุทธิ 10 เดือนกวาดไปแล้ว 10,713 ล้านบาท มั่นใจทั้งปีเกินเป้าที่วางไว้ 13,000 ล้านบาท จากความสำเร็จของการสร้าง Portfolio กับ 4 แบรนด์คุณภาพ เดินหน้าส่งท้ายปลายปีเปิด 2 โครงการใหม่ มูลค่า 7,300 ล้านบาท มั่นใจมียอดขายรอบพรีเซลเดือน พ.ย.นี้ ทั้ง 2 โครงการไม่ต่ำกว่า 25-30% แย้มแผนปี 67 เตรียมขึ้น 3-5 คอนโดฯ มูลค่าราว 10,000 ล้านบาท
น.ส.กมลทิพย์ บำรุงชาติอุดม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานธุรกิจคอนโดมิเนียม บริษัท เอพี ไทยแลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ AP เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมที่จะสิ้นสุดในปี 2566 ว่า เป็นปีที่ผู้ประกอบการเริ่มสร้างฐานใหม่หลังสถานการณ์คลี่คลายอย่างชัดเจน และตลาดฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง โดยจะเห็นได้ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 (ม.ค.-ก.ย.) การเปิดตัวโครงการใหม่ ทั้งจำนวนยูนิต และมูลค่าที่เปิดตัวโครงการยังมีจำนวนไม่มาก ยกเว้นในกลุ่มตลาดคอนโดมิเนียมระดับราคา 2-3 ล้านบาท และห้องชุดระดับราคา 10 ล้านบาทที่เปิดตัวกันค่อนข้างมาก ขณะที่สินค้าของเอพีจะมีระดับราคาตั้งแต่ 3 ล้านบาทขึ้นไป
"ภาพรวมในมุมของ AP ตลาดคอนโดฯ ได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และอยู่ในอัตราจะฟื้นตัว เห็นได้จากในรอบ 10 เดือนแรกของปีนี้ AP มียอดขายสุทธิ 10,713 ล้านบาท เติบโตมากถึงร้อยละ 180 เมื่อเทียบกับยอดขายทั้งปีของปี 2563 ที่เผชิญวิกฤตการณ์ใหญ่ และเติบโตขึ้นร้อยละ 15.8 หากเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยปีนี้ทางกลุ่มธุรกิจคอนโดฯ ตั้งเป้ายอดขายสุทธิไว้ที่ 13,000 ล้านบาท ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถทำยอดขายได้เกินเป้าที่วางไว้แน่นอน ซึ่งปัจจัยที่สนับสนุนให้เราเติบโตได้ดีตลอดมา คือ AP มีการปรับเปลี่ยนตัวโครงการทุกยุคสมัยอย่างสม่ำเสมอ พัฒนาแบรนด์ที่ครอบคลุมทุกเซกเมนต์ มีจุดยืนที่สร้าง Portfolio และการปรับลุคแบรนด์ให้มีความทันสมัย (Refresh Brand) ผ่าน 4 แบรนด์หลักของ AP เพื่อสร้างความแตกต่างที่ชัดเจนยิ่งขึ้น ให้ตรงและทันสมัยกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าที่เปลี่ยนไป ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ THE ADDRESS เพรสทีจ-ลักซ์ คอนโดฯ ระดับราคา 2.5 แสนบาทต่อ ตร.ม. แบรนด์ RHYTHM ลักชัวรีคอนโดฯ ราคา 1.6-2.2 แสนต่อ ตร.ม. แบรนด์ LIFE ไฮคลาสคอนโดฯ ราคา 1-1.6 แสนบาทต่อ ตร.ม. และแบรนด์ ASPIRE คอนโดฯ แมสเซกเมนต์ที่ดีที่สุด ระดับราคา 6 หมื่นบาท ถึง 1 แสนบาท ต่อ ตร.ม." น.ส.กมลทิพย์ กล่าว
และเพื่อสร้างความต่อเนื่องของการพัฒนาโครงการ ในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2566 กลุ่มคอนโดฯ เตรียมเปิดตัว 2 โครงการใหม่ มูลค่า 7,300 ล้านบาท (จากเป้าทั้งปีเปิด 3 โครงการ มูลค่ารวม 10,800 ล้านบาท) ได้แก่ ASPIRE วิภา-วิคตอรี่ คอนโดฯ สูง 29 ชั้น จำนวน 593 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,300 ล้านบาท เตรียมเปิด VIP DAY วันที่ 11-12 พ.ย.66 ราคเริ่มต้น 1 Bedroom ราคา 2.79 ล้านบาท (ราคาเริ่ม 98,000 บาทต่อ ตร.ม.) รับส่วนลดพิเศษสูงสุด 6% เมื่อจองในงานพร้อมลงทะเบียนรับส่วนลดสูงสุดเพิ่มอีก 1 แสนบาท และ RHYTHM เจริญนคร ไอคอนิค คอนโดฯ ร่วมทุน ความสูง 29 ชั้น จำนวน 577 ยูนิต มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท ราคาขายต่อ ตร.ม.ที่ 159,000 บาท ราคาที่ไม่เป็นทางการประมาณ 7.7 ล้านบาท เปิดชมห้องตัวอย่างครั้่งแรก 25-26 พ.ย.นี้ ลงทะเบียนรับส่วนลดสูงสุด 3 แสนบาท
"เรามั่นใจยอดขายทั้ง 2 โครงการจะไม่ต่ำกว่าร้อยละ 25-30 ซึ่งกลุ่มเป้าหมายของ 2 โครงการจะแตกต่างกัน โดยASPIRE วิภา-วิคตอรี่ จะเน้นลูกค้าคนไทยเป็นหลัก ซึ่งรัศมีของโครงการอบ 5 กิโลเมตร จะอยู่ใกล้โรงพยาบาลและศูนย์การแพทย์ถึง 17 แห่ง ดังนั้น กลุ่มเป้าหมายจะบุคลากรทางการแพทย์ คนทำงานงาน เป็นต้น ขณะที่โครงการ RHYTHM เจริญนคร ไอคอนิค วางเป้าหมายลูกค้าต่างชาติใกล้ๆ เพดานร้อยละ 49 ตอนนี้ มีตัวแทนเอเยนต์วิ่งมาหาเรา รวมถึงเอเยนต์จากจีน ไต้หวัน และพม่า กลุ่มหลังเติบโตเร็วมาก ซึ่งเดิมจะเน้นห้องชุดพร้อมอยู่ (LTM) แต่หลังๆ เริ่มดูห้องชุดที่เริ่มพรีเซล ที่ผ่านมา ชาวพม่าเข้ามาใช้บริการทางการแพทย์ของไทยจำนวนมาก"
น.ส.กมลทิพย์ กล่าวถึงแผนธุรกิจในปี 2567 ว่า AP ยังคงเดินหน้าลงทุน ในเบื้องต้นจะเปิด 3-5 โครงการ มูลค่าราว 10,000 ล้านบาท (บวก/ลบ) และยังคงเดินหน้าหาที่ดินรองรับการพัฒนาโครงการในทำเลที่เหมาะสม
น.ส.นิยมาพร โต๊ะสงวนพันธ์ ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานการตลาดและการขายธุรกิจ กลุ่มสินค้าคอนโดมิเนียม บมจ.เอพี ไทยแลนด์ กล่าวว่า ASPIRE วิภา-วิคตอรี่ ถือเป็น ASPIRE คอนโดฯ ในเวอร์ชันใหม่ที่บริษัทตั้งใจพัฒนาขึ้น เพื่อให้สอดรับกับดีมานด์และไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมายในทำเลนี้โดยเฉพาะ โดยภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมในย่านดินแดง ราชปรารถ เชื่อมต่ออนุสาวรีย์ชัย และย่านวิภาวดีนั้น พบว่าไม่มีซัปพลายใหม่เปิดตัวมานานแล้วกว่า 5 ปี โดยซัปพลายที่มีราคาขายเฉลี่ยในโหมด 115,000-155,000 บาท/ตร.ม. จำนวน 2 ใน 4 โครงการได้ปิดการขาย 100% ไปแล้ว ซึ่งนับเป็นอัตราการตอบรับที่ดี ส่วนซัปพลายที่คงเหลือขายอยู่ ณ ปัจจุบันประมาณ 100 ยูนิต