หุ้นไทยปิด -2.55 จุด นักวิเคราะห์ชี้ แม้ภาพรวมตลอดทั้งวันปรับตัวบวก แต่แรงขายทำกำไรหุ้นกลุ่มพลังงานและโรงพยาบาลเข้ากดดันตลาด ฉุดดัชนีปิดลบ แนะนักลงทุนจับตาตัวเลขนำเข้า-ส่งออกจีน หากออกมาดีอาจเป็นแรงหนุนวันพรุ่งนี้ ประเมินกรอบการลงทุนแนวรับที่ 1,415 จุด ส่วนแนวต้านที่ 1,430 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 6 พ.ย. 2566 ปรับตัวลดลง -2.55 จุด หรือ -0.18% โดยปิดตลาดที่ 1,417.21 จุด มูลค่าซื้อขาย 42,924.19 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการซื้อขายหุ้นวันนี้ ช่วงต้นภาคเช้าดัชนีปรับตัวขึ้นร้อนแรงกว่า 10 จุด ก่อนจะค่อย ๆ ปรับตัวลง โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,431.51 จุด ในทิศทางกลับกันที่ปรับตัวลดลงทำจุดต่ำสุด 1,417.21 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 204 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 157 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 285 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิกว่า -860.74 ล้านบาท และ นักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -190.14 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า +863.67 ล้านบาท บัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า +187.20 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,821.89 ล้านบาท ปิดที่ 163.50 บาท ลดลง 1.50 บาท
2.ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,503.23 ล้านบาท ปิดที่ 222.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
3.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,417.21 ล้านบาท ปิดที่ 56.25 บาท ลดลง 0.50 บาท
4.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,339.39 ล้านบาท ปิดที่ 132.00 บาท ลดลง 1.50 บาท
5.BDMS มูลค่าการซื้อขาย 1,314.99 ล้านบาท ปิดที่ 26.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.ADVANC ปิดที่ 222.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00บาทหรือ 1.37%
2.SCC ปิดที่ 293.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00บาทหรือ 1.03%
3.KCE ปิดที่ 57.25 บาท เพิ่มขึ้น 2.25บาทหรือ 4.09%
4.CBG ปิดที่ 74.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.25 บาทหรือ 3.11%
5.INTUCH ปิดที่ 69.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50บาทหรือ 2.21%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.BH ปิดที่ 248.00บาท ลดลง 9.00บาทหรือ 3.50%
2.EGCO ปิดที่ 128.50บาท ลดลง 1.50บาทหรือ 1.15%
3.KBANK ปิดที่ 132.00บาท ลดลง 1.50บาทหรือ 1.12%
4.PTTEP ปิดที่ 163.50บาท ลดลง 1.50บาทหรือ 0.91%
5.EA ปิดที่ 45.50บาท ลดลง 1.25บาทหรือ 2.67%
ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 1,942.23 จุด ลดลง -5.22 จุด หรือ -0.27% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 876.34 จุด ลดลง -2.39 จุด หรือ -0.27% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 403.77 จุด ลดลง -3.42 จุด หรือ -0.84%
นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ฟื้นตัวตามตลาดหุ้นภูมิภาค โดยช่วงเช้าบวกไปแรงกว่า 10 จุด แต่ค่อยๆอ่อนตัวลง โดยกลุ่มพลังงานและโรงพยาบาลกดดันดัชนีเล็กน้อยส่งผลให้ฟื้นตัวอ่อนแอกว่าภูมิภาคบ้าง ขณะที่นักลงทุนยังรอติดตามการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 3/66
"ตัวเลขเงินเฟ้อของไทยที่ออกมาค่อนข้างผสมผสาน โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปต่ำกว่าคาด แต่เงินเฟ้อพื้นฐานสูงกว่าคาดเล็กน้อย จึงทำให้ตลาดทรงตัวหลังจากบวกแรงมาต่อเนื่อง 2 วันสุดท้ายของสัปดาห์ก่อน"
ส่วนแนวโน้มในวันพรุ่งนี้คาดว่าดัชนีมีทิศทางไซด์เวย์ออกด้านข้าง นักลงทุนติดตามการรายงานตัวเลขยอดนำเข้า-ส่งออก และดุลการค้าเดือน ต.ค.ของจีน หากตัวเลขออกมาดีก็อาจจะช่วยหนุนดัชนีหุ้นไทย โดยมองกรอบการลงทุนแนวรับที่ 1,415 จุดและแนวต้าน 1,430 จุด