หุ้นไทยปิดตลาด +15.77 จุด นักวิเคราะห์ชี้ SET INDEX รับ Sentiment เชิงบวกต่อหลัง FOMC มีมติคงอัตราดอกเบี้ย อีกทั้งผลตอบแทนพันธบัตร (บอนด์ยิลด์) ปรับตัวลดลง แนะจับตารายงานตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ต.ค.ในคืนนี้ มองดัชนีสัปดาห์หน้ากลับไปยืนเหนือ 1,440 จุดได้ โดยแนวรับที่ 1,415 จุด และแนวต้าน 1,460 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 3 พ.ย.2566 ปรับตัวเพิ่มขึ้น +15.77 จุด หรือ +1.12% โดยปิดตลาดที่ 1,419.76 จุด มูลค่าซื้อขาย 45,779.45 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นตลอดทั้งวันตั้งแต่เปิดทำการซื้อขายภาคเช้าจนกระทั่งปิดตลาด โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,424.66 จุด ในทิศทางกลับกันที่ปรับตัวลดลงต่ำสุด 1,410.04 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้น จำนวน 395 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลง จำนวน 142 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลง จำนวน 112 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุน พบว่า นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิกว่า +3,759.00 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิกว่า -574.82 ล้านบาท ในทางกลับกัน พบว่า นักลงทุนในประเทศขายสุทธิกว่า -2,151.18 ล้านบาท บัญชี บล. ขายสุทธิกว่า -1,033.01 ล้านบาท และ
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,153.49 ล้านบาท ปิดที่ 165.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท
2.SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,737.67 ล้านบาท ปิดที่ 100.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
3.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,638.24 ล้านบาท ปิดที่ 133.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
4.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,544.34 ล้านบาท ปิดที่ 56.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
5.GPSC มูลค่าการซื้อขาย 1,492.85 ล้านบาท ปิดที่ 43.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.BBL ปิดที่ 162.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.50บาท หรือ 2.86%
2.EGCO ปิดที่ 130.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00บาท หรือ 3.17%
3.ADVANC ปิดที่ 219.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท หรือ 1.86%
4.PTTEP ปิดที่ 165.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท หรือ 2.17%
5.GPSC ปิดที่ 43.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.00บาท หรือ 7.41%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.INTUCH ปิดที่ 68.00 บาท ลดลง 2.00 บาท หรือ 2.86%
2.SCC ปิดที่ 290.00 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ 0.34%
3.DELTA ปิดที่ 83.50 บาท ลดลง 0.75 บาท หรือ 0.89%
4.CRC ปิดที่ 37.00บาท ลดลง 0.25 บาท หรือ 0.67%
5.TISCO ปิดที่ 97.00บาท ลดลง 0.25บาท หรือ 0.26%
ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 1,947.45 จุด เพิ่มขึ้น 21.74 จุด หรือ 1.13% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 878.73 จุด เพิ่มขึ้น 9.54 จุด หรือ 1.10% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 407.19 จุด เพิ่มขึ้น 6.74 จุด หรือ 1.68%
นายเบญจพล สุทธิ์วนิช ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ยังเป็น Sentiment เชิงบวกต่อเนื่อง จากคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) มีมติคงอัตราดอกเบี้ย ขณะที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งสัญญาณ Dovish ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ (บอนด์ยิลด์) ปรับตัวลดลง รวมทั้ง Dollar Index อ่อนค่าลงมาบ้าง ซึ่งเป็นการเปิด earning yield gap ให้กว้างขึ้น ส่งผลให้สินทรัพย์เสี่ยงมีความน่าสนใจในการลงทุน
"มองว่า SET มีโอกาสปรับฐานขึ้นอยู่บริเวณ P/E 15 หรือ 16 เท่า และคาดว่ากรอบในช่วง 1 เดือนข้างหน้าจะเห็นดัชนีเคลื่อนไหวอยู่ที่กรอบ 1,440-1,580 จุด ในขณะที่ระยะสั้นมองว่าหุ้นในกลุ่มไฟฟ้าจะได้ประโยชน์มากที่สุด จากการที่ดัชนีปรับขึ้นในรอบนี้ หลังจากก่อนหน้านี้กลุ่มดังกล่าวปรับตัวลงค่อนข้างมาก โดยแนะนำหุ้น BCPG BPP และ EGCO" นายเบญจพล กล่าว
ทั้งนี้ นักลงทุนควรจับตาสหรัฐฯ จะรายงานตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ต.ค. ในคืนนี้ รวมทั้งในช่วงกลางสัปดาห์จะมีการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อและตัวเลขดุลการค้าของจีน ซึ่งหากตัวเลขออกมาดีตามคาด คาดว่าจะหนุนให้ SET กลับไปยืนเหนือ 1,440 จุดได้ โดยมองแนวรับไว้ที่ 1,415 จุด และแนวต้าน 1,460 จุด
