ทรูแจ้งตลาดฯ คำสั่งศาลปกครองสูงสุดสั่งให้ศาลปกครองชั้นต้นรับคำฟ้องกรณีพิพาทระหว่างมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กับ กสทช. ไม่มีผลต่อการควบรวมของบริษัทฯ ซึ่งได้เสร็จสิ้นสมบูรณ์ และถูกต้องครบถ้วนตามกระบวนการทางกฎหมายเเล้ว
วันนี้ (31 ต.ค.) ตามที่ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำสั่งให้ศาลปกครองชั้นต้นรับคำฟ้องที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคได้ยื่นฟ้องคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (“กสทช.”) เพื่อขอเพิกถอนมติ กสทช. ที่รับทราบการควบรวมธุรกิจระหว่าง บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (เดิม) และบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) (เดิม) ไว้พิจารณาต่อไป นั้น บริษัทฯ ขอชี้แจงว่า คำสั่งศาลปกครองสูงสุดดังกล่าวเป็นเพียงการสั่งให้ศาลปกครองชั้นต้นรับคำฟ้องข้างต้นของมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคที่ได้ยื่นฟ้องโดยขาดอายุความไปแล้วเท่านั้น โดยที่ศาลปกครองชั้นต้นยังจะต้องพิจารณาประเด็นของคดีดังกล่าวต่อไปว่ามติรับทราบการควบรวมธุรกิจของ กสทช. ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
บริษัทฯ ขอเรียนชี้แจงว่า
(1) การฟ้องคดีดังกล่าวเป็นข้อพิพาทระหว่างมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคกับ กสทช. และไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจใดๆ ของบริษัทฯ
(2) การควบรวมของบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (เดิม) และบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) (เดิม) ได้เสร็จสิ้นโดยสมบูรณ์แล้ว และเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหมดและเหมือนกับกระบวนการควบรวมธุรกิจที่ผ่านมาของบริษัทมหาชนซึ่งประกอบธุรกิจโทรคมนาคม
และ (3) คดีที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคได้ยื่นฟ้อง กสทช. ดังกล่าวเป็นคดีที่มีประเด็นเดียวกันกับคดีที่ศาลปกครองชั้นต้นได้เคยมีคำสั่งยกคำขอคุ้มครองชั่วคราวโดยศาลเห็นว่า มติรับทราบการควบรวมบริษัทของ กสทช. ได้อาศัยอำนาจตามที่กฎหมายกำหนดไว้แล้ว จีงไม่มีเหตุรับฟังได้ว่ามติรับทราบการควบรวมธุรกิจของ กสทช. ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทั้งนี้เป็นไปตามที่บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (เดิม) และบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) (เดิม) ได้เคยเปิดเผยกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566