หุ้นปิดลบ 23.69 จุด หลุด 1,400 บอนด์ยิลด์กดดันต่อเนื่อง กังวลสงครามยืดเยื้อบานปลาย ทำให้นักลงทุนเทขายสินทรัพย์เสี่ยง สำหรับแนวโน้มในสัปดาห์หน้ายังคงต้องติดตามสถานการณ์สงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสจะเป็นอย่างไรต่อไป ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อทิศทางต่อตลาดหุ้น แต่มองว่าดัชนี SET ที่ปรับลดลงมาค่อนข้างมาก อาจจะเป็นจังหวะที่นักลงทุนระยะกลาง-ยาวสามารถทยอยเข้าสะสมได้
นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ กรรมการผู้จัดการ สายงานค้าหลักทรัพย์ บล.บัวหลวง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงตามทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยปัจจัยหลักยังคงมาจากปัจจัยสงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสที่ยังคงยืดเยื้อต่อเนื่อง และกังวลสถานการณ์จะบานปลาย โดยเฉพาะความพยายามของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่จะของบประมาณในการช่วยอิสราเอลในการสู้รบกับกลุ่มฮามาส ทำให้สงครามอาจขยายวงกว้างขึ้น ทำให้นักลงทุนเทขายสินทรัพย์เสี่ยง
ขณะเดียวกัน ยังมีแรงกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond Yield) รัฐบาลสหรัฐฯ 10 ปี พุ่งขึ้นต่อเนื่องแตะระดับเกือบ 5% หลังจากประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ออกมาแสดงความเห็นในการที่ยังมีความจำเป็นต้องขึ้นดอกเบี้ยเพื่อลดเงินเฟ้อ ทำให้ตลาดคาดว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งในช่วงที่เหลือของปีนี้ และเป็นปัจจัยที่กดดันต่อตลาดหุ้น
ด้านภาวะตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,399.35 จุด ลดลง 23.69 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -1.66% มูลค่าการซื้อขาย 52,983.02 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มในสัปดาห์หน้ายังคงต้องติดตามสถานการณ์สงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสจะเป็นอย่างไรต่อไป ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อทิศทางต่อตลาดหุ้น แต่มองว่าดัชนี SET ที่ปรับลดลงมาค่อนข้างมาก อาจจะเป็นจังหวะที่นักลงทุนระยะกลาง-ยาว สามารถทยอยเข้าสะสมได้ โดยให้แนวต้าน 1,410-1,420 แนวรับ 1,380-1,390 จุด