สิงคโปร์ตั้งหน่วยเฉพาะกิจคริปโต จับมือตำรวจลุยคดีสินทรัพย์เสมือน

สำนักงานอัยการสูงสุดสิงคโปร์ตั้งหน่วยเฉพาะกิจพิเศษ 2 ชุด ประกอบด้วยอัยการราว 20 คน ทีมหนึ่งจัดการอาชญากรรมเกี่ยวกับคริปโต ส่วนอีกทีมปราบปรามอาชญากรรมจากเทคโนโลยี

เทคโนโลยีปัจจุบันมีวิวัฒนาการรวดเร็วมาก และมีการพัฒนาต่อยอดออกมามากมายจากคอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ต สมาร์ทโฟน โซเชียลมีเดีย คริปโต และปัญญาประดิษฐ์ (AI)

อย่างไรก็ดี คนธรรมดาทั่วไปอาจไล่ตามความคืบหน้าด้านเทคโนโลยีเหล่านี้ไม่ทัน เปิดช่องให้เหล่าอาชญากรฉกฉวยประโยชน์จากความซับซ้อนของเทคโนโลยีเพื่อทำกิจกรรมผิดกฎหมาย

หวัง โชเรน รองอัยการสูงสุดของสำนักงานอัยการสูงสุดสิงคโปร์ เปิดเผยกับสื่อท้องถิ่นว่า หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายกำลังถูกกดดันมากขึ้นให้ปรับตัวและทำความเข้าใจวิธีการที่อาชญากรใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี ซึ่งนำไปสู่อาชญากรรมรูปแบบใหม่ๆ

เขาเสริมว่า อัยการต้องติดเขี้ยวเล็บให้ตัวเองด้วยความรู้ที่จำเป็น รวมทั้งทักษะในการจัดการอาชญากรรมใหม่ๆ ที่ขับเคลื่อนโดยเทคโนโลยีอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

โชเรนยังบอกอีกว่า โดยทั่วไปอาชญากรรมจากเทคโนโลยีมีสองรูปแบบหลัก รูปแบบแรกคืออาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีโดยตรง เช่น การเจาะระบบคอมพิวเตอร์ ส่วนรูปแบบที่สองคืออาชญากรรมที่มีเทคโนโลยีเป็นตัวช่วยซึ่งรวมถึงอาชญากรรมแบบเดิมๆ ที่ลงมือง่ายขึ้นด้วยเทคโนโลยี เช่น การปลอมแปลงในระบบดิจิตอล การคุกคามและการฉ้อโกงออนไลน์

เพื่อรับมืออาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีที่ระบาดมากขึ้น สำนักงานอัยการสูงสุดสิงคโปร์จึงระดมอัยการประมาณ 20 คนจัดตั้งทีมเฉพาะกิจสองชุดๆ แรกคือคณะทำงานด้านอาชญากรรมจากเทคโนโลยี (หน่วยเฉพาะกิจอาชญากรรมจากเทคโนโลยี) และชุดที่สองคือหน่วยเฉพาะกิจคริปโต

หน่วยเฉพาะกิจอาชญากรรมจากเทคโนโลยีมีความรับผิดชอบหลักในการจัดการอาชญากรรมที่ใช้เทคโนโลยีหรือคอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือ รวมถึงการจัดการหลักฐานทางดิจิตอล

ในทางกลับกัน หน่วยเฉพาะกิจคริปโตจะโฟกัสที่ความท้าทายหลากหลายด้านที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินเสมือน ซึ่งรวมถึงการร่วมมือกับสำนักงานตำรวจในการติดตาม ยึด และจัดการสินทรัพย์สกุลเงินเสมือน ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่มีความสำคัญมากขึ้นในการสอบสวนอาชญากรรมทางการเงินสมัยใหม่

โชเรนสำทับว่า สำนักงานอัยการสูงสุดยังร่วมมือกับบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ เช่น บริษัทโซเชียลมีเดีย เนื่องจากภาครัฐและเอกชนต้องทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อต่อสู้กับอาชญากรรมทางไซเบอร์ และรับมือความท้าทายจากเทคโนโลยีล้ำสมัย

นอกจากนั้นสำนักงานอัยการสูงสุดของสิงคโปร์ยังเน้นย้ำความสำคัญของการร่วมมือข้ามพรมแดนเพื่อปราบปรามอาชญากรรมในแวดวงคริปโตและอาชญากรรมจากเทคโนโลยี

นอกจากสิงคโปร์แล้ว ปัจจุบันอินเดียกำลังพัฒนาเครื่องมือวิเคราะห์และข่าวกรองเกี่ยวกับคริปโต (CIAT) เพื่อจัดการการฉ้อโกงและการขโมยคริปโต และต้นปีนี้สำนักงานอาชญากรรมแห่งชาติ (NCA) ของอังกฤษได้เปิดตัวหน่วยงานพิเศษทำหน้าที่ปราบปรามอาชญากรรมคริปโต