xs
xsm
sm
md
lg

"ยัสปาล" นับหนึ่งไฟลิ่งเตรียมขาย IPO 156 ล้านหุ้น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บมจ.ยัสปาล (JPC) เตรียมเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 156 ล้านหุ้น หลังสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) นับหนึ่งแบบไฟลิ่งเป็นที่เรียบร้อย ชูความเชี่ยวชาญทั้งในอุตสาหกรรมแฟชั่นและอุตสาหกรรมที่นอนและเครื่องนอนตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ และพอร์ตโฟลิโอแบรนด์สินค้าเป็นที่ยอมรับในระดับสากล และช่องทางขายหลากหลายครอบคลุมกลุ่มเป้าหมาย เสริมศักยภาพการทำตลาดทั้งในและต่างประเทศ ตอกย้ำเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจสินค้าแฟชั่นไลฟ์สไตล์ของภูมิภาคอาเซียน

นายจรัญ สิงห์สัจจเทศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JPC เปิดเผยว่า JPC มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจแฟชั่นมามากว่า 75 ปี ด้วยทีมผู้บริหารและบุคลากรที่มีความเข้าใจทั้งในอุตสาหกรรมแฟชั่นและอุตสาหกรรมที่นอนและเครื่องนอนตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ และเข้าใจเทรนด์การเปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิตประจำวันของผู้บริโภค เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตด้วยวิสัยทัศน์ "หนึ่งในผู้นำธุรกิจแฟชั่นไลฟ์สไตล์ เพื่อนำความสุขที่ยิ่งใหญ่มาสู่ผู้คนนับล้านทั่วโลก" ผ่านการดำเนินงานใน 2 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ กลุ่มธุรกิจค้าปลีก สินค้าแฟชั่นและสินค้าไฟล์สไตล์อื่นๆ (กลุ่มธุรกิจสินค้าแฟชั่น) และกลุ่มธุรกิจผลิตและจำหน่ายที่นอนและเครื่องนอน ของตกแต่งบ้านและเฟอร์นิเจอร์ (ธุรกิจที่นอนและเครื่องนอน) ที่ดำเนินงานภายใต้บริษัท ยัสปาล แอนด์ ซันส์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย

ปัจจุบัน มีแบรนด์สินค้าที่กลุ่มบริษัทเป็นเจ้าของ (In-house Brand) และแบรนด์ที่บริษัทได้รับสิทธิให้ผลิตและเป็นตัวแทนจำหน่าย ได้รับอนุญาตให้ใช้สิทธิ หรือได้รับสัญญาแฟรนไชส์ (Import Brand) รวมกันกว่า 27 แบรนด์ชั้นนำ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่มทุกไลฟ์สไตล์ด้วยคุณภาพ และมาตรฐานระดับสากล สร้างการยอมรับจากลูกค้าทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ

JPC เป็นบริษัทสัญชาติไทยที่มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับที่ 1 ในอุตสาหกรรมเสื้อผ้าและรองเท้าเฉพาะอย่างของประเทศไทย (อ้างอิงจาก Euromonitor International) โดยมีส่วนแบ่งการตลาดปี 2563-2565 ร้อยละ 8.4 ร้อยละ 10.0 และร้อยละ 10.5 ตามลำดับ แสดงถึงศักยภาพการดำเนินงานของบริษัทที่มีแบรนด์พอร์ตโฟลิโอหลากหลาย มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ตอกย้ำถึงประสบการณ์และความเข้าใจเทรนด์ของอุตสาหกรรมเพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ ตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่แตกต่างทั้งด้านความชอบ ไลฟ์สไตล์และรายได้ โดยมีแบรนด์หลัก ได้แก่ JASPAL (ยัสปาล) CC DOUBLE O (ซีซี ดับเบิ้ลโอ) CPS CHAPS (ซีพีเอส แชปส์) LYN (ลิน) lyn around (ลิน อะราวนด์) เป็นต้น

รวมถึงมี Import Brand ที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า ทำให้บริษัทนำเสนอผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ได้ดียิ่งขึ้น เช่น FRED PERRY (เฟร็ด เพอร์รี่) DIESEL (ดีเซล) Superdry (ซุปเปอร์ดราย) เป็นต้น รวมถึงกลุ่มธุรกิจที่นอนและเครื่องนอน ภายใต้ In-house Brand และ Import Brand รวม 6 แบรนด์ ได้แก่ SANTAS, SANTAS HOME, STEVENS, Sealy, TEMPUR และ ETHAN ALLEN

กลุ่มบริษัทยังนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพเพื่อเข้าถึงลูกค้าได้อย่างครอบคลุม ผ่านช่องทางจำหน่ายสาขาหน้าร้านและจุดจำหน่ายภายในศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้าและศูนย์ค้าปลีกชั้นนำทั่วประเทศ รวม 977 สาขา ทั้งในและต่างประเทศ ขณะเดียวกันกลุ่มธุรกิจสินค้าแฟชั่นยังมีการจำหน่ายเพิ่มเติมผ่านทางออนไลน์ทางเว็บไซต์กลุ่มบริษัท และแพลตฟอร์มซื้อขายออนไลน์ต่างๆ (Marketplace) และกลุ่มธุรกิจที่นอนและเครื่องนอนยังมีการจำหน่ายเพิ่มเติมผ่านการขายงานโครงการและส่งออกสินค้าไปต่างประเทศ

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JPC กล่าวว่า กลุ่มบริษัทมุ่งนำประสบการณ์และความเข้าใจในอุตสาหกรรม เพื่อส่งเสริมขีดความสามารถการแข่งขันในทุกด้าน เพื่อผลักดัน JPC ไปสู่หนึ่งในผู้นำธุรกิจสินค้าแฟชั่นไลฟ์สไตล์ของภูมิภาคอาเซียน จากแผนขับเคลื่อนธุรกิจโดยใช้ Big Data จากฐานข้อมูลการขายสินค้าและศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภค เพื่อวางแผนพัฒนาแบรนด์สินค้าใหม่ๆ การขยายสาขาและจุดจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ นอกจากนี้ ยังได้นำระบบเทคโนโลยีมาใช้เพื่อบริหารสินค้าคงคลัง เพิ่มประสิทธิความแม่นยำในการบริหารและจัดสรรสินค้าไปจุดจำหน่ายที่เหมาะสม ลดต้นทุนการจัดเก็บสินค้าที่ไม่จำเป็น ส่งผลให้อัตราการหมุนเวียนสินค้าคงเหลือในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (2563-2565) ดีขึ้นต่อเนื่อง หรืออยู่ที่ 1.6, 1.7 และ 2.0 เท่า ตามลำดับ ส่งผลให้บริษัทมีความสามารถในการทำกำไรขั้นต้นอยู่ที่ร้อยละ 50.76 ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2566 ใกล้เคียงกับบริษัทระดับโลกในอุตสาหกรรมผู้ค้าปลีกเสื้อผ้าและสินค้าแฟชั่นอีกด้วย

ภาพรวมผลการดำเนินงานในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (2563-2565) บริษัทมีรายได้จากการขาย 8,303.2 ล้านบาท 8,276.4 ล้านบาท และ 11,491.34 ล้านบาท ตามลำดับ โดยธุรกิจสินค้าแฟชั่นคิดเป็นสัดส่วน 82.5%, 82.0% และ 83.3% ของรายได้จากการขาย ซึ่งมาจาก In-house Brand 5 แบรนด์หลัก ได้แก่ JASPAL CC DOUBLE O CPS CHAPS LYN lyn around ขณะที่ธุรกิจที่นอนและเครื่องนอนทำสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 17.5%, 18.0% และ 16.7% ตามลำดับ โดยรายได้ส่วนใหญ่มาจาก Import Brand

ส่วนผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของปี 2566 (ม.ค.-มิ.ย.66) บริษัทมีรายได้จากการขายรวม 6,083.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.9% และกำไรขั้นต้น 3,088.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หลังการบริโภคภายในประเทศฟื้นตัวและจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในไทยเพิ่มขึ้น โดยธุรกิจสินค้าแฟชั่นคิดเป็น 85.1% ของรายได้จากการขาย ขณะที่ธุรกิจที่นอนและเครื่องนอนทำสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 14.9%

นายพงศ์ศักดิ์ พฤกษ์ไพศาล กรรมการผู้จัดการ บล.กสิกรไทย ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า JPC มีแผนนำเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ไปเพิ่มขีดความสามารถในการดำเนินธุรกิจ ลงทุนขยาย และ/หรือปรับปรุงสาขาและจุดจำหน่ายสินค้า รวมถึงใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจและชำระคืนเงินกู้ยืมจากธนาคารพาณิชย์ของกลุ่มบริษัทต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น