ก.ล.ต.เปิดเผยรายชื่อการขออนุญาติศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลรายล่าสุด พบทายาทเจ้าสัว "เจียรวนนท์" นั่งแท่นกรรมการบริหาร
สำนักงาน ก.ล.ต. ออกประกาศอนุมัติ บริษัท วาฬ เอ็กเชนจ์ จำกัด (WAANX) ได้ใบอนุญาตประกอบธุรกิจ สินทรัพย์ดิจิทัลจาก ก.ล.ต. ทั้งประเภทศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Exchange) และประเภทนายหน้าสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Exchange) เมื่อวันที่ 29 กันยายนที่ผ่านมาเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา
ขณะที่ทางข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าพบว่า บริษัทนี้จดทะเบียนดังกล่าวเข้าจดทะเบียนก่อตั้งเมื่อวันที่ 28 ม.ค. 2565 โดยมีทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท นอกจากนี้ยังปรากฎรายชื่อของนายชวัล เจียรวนนท์ เป็นหนึ่งในกรรมการบริษัทและเป็นผู้มีอำนาจ ลงลายมือชื่อและประทับตราสำคัญของบริษัท
ขณะที่ด้านประวัติของผู้บริหาร "นายชวัล เจียรวนนท์ หรือ “ริชชี่” เป็นบุตรชายของ นายชัชวาลย์ เจียรวนนท์ หนึ่งในกลุ่มตระกูลเจ้าสัวของไทย โดยในส่วนของธุรกิจยังเคยดำรงตำแหน่ง CEO Snapask (ไทยแลนด์) สตาร์ตอัปการให้บริการติวเตอร์สำหรับนักเรียนมัธยมผ่านแอปพลิเคชัน
ขณะที่ในส่วนของโปรไฟล์การทำงานผ่าน Linkedin พบว่านาย “ชวัล” คลุกคลีอยู่ในแวดวงคริปโต มาเป็นระยะเวลาพอสมควรแล้ว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการร่วมธุรกิจของ Infinity Venture Crypto (IVC) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมลงทุนที่เน้นการลงทุนในธุรกิจบล็อกเชน Web3 และโครงการ DeFi ต่างๆ นอกจากนี้ ยังเป็นผู้อำนวยการ VELO coin (ซึ่งเป็นเหรียญของคนไทยในชื่อเหรียญ CP โดยเหรียญ VELO ถูกพัฒนาเพื่อแก้ไขปัญหาการทำธุรกรรมทางการเงินที่ล่าช้าและมาพร้อมค่าธรรมเนียมค่อนข้างสูง ) โดยชวัลทำงานกับ Velo ตั้งแต่ 2561 จนถึงปัจจุบัน และยังนั่งแท่นผู้อำนวยการของ Lightnet Group (ตั้งแต่ปี 2562 จนถึงปัจจุบัน)
ทั้งนี้หลังจากที่ วาฬ เอ็กเชนจ์ ได้ใบอนุญาตประกอบธุรกิจจาก ก.ล.ต. แล้ว ทำให้ปัจจุบันมีผู้ประกอบธุรกิจให้บริการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้ใบอนุญาตแล้ว และกำลังเตรียมความพร้อมด้านระบบ ก่อนเปิดให้บริการซื้อขายทั้งหมด 4 ราย ได้แก่
1.บริษัท วาฬ เอ็กเชนจ์ จำกัด (ไลเซนส์เอ็กเชนจ์,โบรกเกอร์)
2.บริษัท กัลฟ์ ไบแนนซ์ จำกัด (ไลเซนส์เอ็กเชนจ์,โบรกเกอร์)
3.บริษัท แมกซ์บิท ดิจิทัล แอสเซท จำกัด (ไลเซนส์โบรกเกอร์)
4.บริษัท 1109 พรอส์เปอร์ จำกัด (ไลเซนส์ดีลเลอร์)
ทั้งนี้ผู้ประกอบการธุรกิจศูนย์ซื้อขายดิจิทัลรายใหญ่ที่ตลาดโฟกัสความสนใจเป็นอันดับที่ 1 คือ บริษัท กัลฟ์ ไบแนนซ์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง บริษัท กัลฟ์ อินโนวา จำกัด (บริษัทลูกของ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF) และ Binance Capital Management ของกลุ่ม Binance ซึ่งคาดว่าจะเข้ามาชิงส่วนแบ่งการตลาดในอุตฯคริปโตอย่างมี่นัยยะสำคัญ หลังจากที่ กัลฟ์ ไบแนนซ์ ประกาศการได้รับใบอนุญาติแล้ว และรอเวลาการฟื้นคืนของตลาดคริปโตที่จะเข้าสู่ตลาดกระทิง และตัดริบบิ้นเปิดให้บริการในไตรมาสที่ 4 ปีนี้