นายทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ กรรมการและผู้จัดการ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) เปิดเผยว่า ในฐานะที่ไอแบงก์เป็นหนึ่งในธนาคารของรัฐ และมีพันธกิจที่ชัดเจนในการสนับสนุนสินเชื่อและบริการทางการเงินตามหลักชะรีอะฮ์ให้กลุ่มลูกค้าที่ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจ SMEs และลูกค้ารายย่อย ไอแบงก์จะยังไม่ประกาศขึ้นอัตรากำไรสินเชื่อทุกประเภท ได้แก่ อัตรากำไรสินเชื่อสำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี (SPR) ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 8.25% ต่อปี อัตรากำไรสำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทสินเชื่อแบบมีกำหนดระยะเวลา (SPRL) อยู่ที่ 8.00% ต่อปี และอัตรากำไรสินเชื่อสำหรับลูกค้ารายย่อยชั้นดี (SPRR) อยู่ที่ 8.50% ต่อปี ทั้งนี้เพื่อเป็นการดูแลต้นทุนทางการเงินให้แก่ลูกค้าสินเชื่อทุกประเภท จำนวนกว่า 6.5 หมื่นบัญชี ที่เป็นลูกค้ารายย่อย ผู้ประกอบการทั้ง SMEs และธุรกิจขนาดใหญ่ รวมยอดคงค้างกว่า 6.8 หมื่นล้านบาท
นอกจากนี้ ไอแบงก์ยังมีโครงการพัฒนาและส่งเสริมผู้ประกอบการเพื่อส่งเสริมศักยภาพ ตลอดจนลดภาระหนี้ภาคประชาชนอย่างยั่งยืน เช่น โครงการส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการสินค้าฮาลาลสู่การส่งออก โครงการสินเชื่อบ้านมีหนี้ลด ซึ่งกรณีหลังเป็นการรวมภาระหนี้ต้นทุนสูงมาอยู่ที่ไอแบงก์ที่เดียว โดยตั้งแต่ต้นปี 2566 ธนาคารได้ช่วยลูกค้าเหล่านั้นในการรวมหนี้เพื่อลดภาระหนี้ รวมทั้งสิ้น 2,631 ราย เป็นวงเงินกว่า 2,500 ล้านบาท หรือโครงการชุมชนซื่อสัตย์ ที่ช่วยเหลือประชาชนระดับฐานรากให้หลุดพ้นหนี้นอกระบบ เพื่อเป็นการฟื้นฟูเศรษฐกิจในระดับโครงสร้างให้แข็งแรงและยั่งยืนต่อไป