หุ้นไทยปิดร่วง 15.23 จุด ตามตลาดภูมิภาค กังวลภาคอสังหาฯ จีน และกรณีรัฐบาลสหรัฐฯ เสี่ยงชัตดาวน์ สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันพรุ่งนี้ คาดว่าจะเป็นภาพของการไซด์เวย์สร้างฐาน โดยนักลงทุนจับตาดูทิศทางการประชุม ครม. ซึ่งจะมีการพิจารณามาตรการต่างๆ โดยเชื่อว่าจะมีความชัดเจนมากขึ้นทั้งมาตรการพักหนี้เกษตร หรือการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ต้องติดตามความคืบหน้าวงเงินงบประมาณต่างๆ ซึ่งอาจจะช่วยผลักดันดัชนีกลับมาได้ โดยหุ้นกลุ่มที่คาดว่าจะได้ผลประโยชน์จากนโยบายรัฐบาล เช่น กลุ่มค้าปลีก แม้ว่าไตรมาส 3/66 ผลประกอบการอาจจะไม่โดดเด่นมาก แต่หากมองไปในไตรมาส 4/66 หุ้นกลุ่มดังกล่าวยังอยู่ในจุดที่น่าสนใจ อีกทั้งราคาหุ้นยังไม่ตอบสนองต่อมาตรการภาครัฐเท่าไร ส่งผลให้อาจมีแรงเก็งกำไรเข้ามาได้บ้าง
นายชาญชัย พันทาธนากิจ ผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงตามทิศทางของตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาค ประเด็นหลักที่กดดันดัชนี คือ ความกังวลภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีน หลังจากบริษัท ไชน่า เอเวอร์แกรนด์ ไม่สามารถออกหุ้นกู้ใหม่ได้ และทางฝั่งสหรัฐฯ ที่ต้องติดตามการพิจารณาร่างกฎหมายงบประมาณ ซึ่งหากยังไม่ได้ข้อสรุปภายในวันที่ 30 ก.ย. อาจมีความเสี่ยงเกิด Government shutdown
ด้านภาวะตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,507.36 จุด ลดลง 15.23 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -1.00% มูลค่าการซื้อขาย 42,194.46 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันพรุ่งนี้ คาดว่าจะเป็นภาพของการไซด์เวย์สร้างฐาน โดยนักลงทุนจับตาดูทิศทางการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งจะมีการพิจารณามาตรการต่างๆ โดยเชื่อว่าจะมีความชัดเจนมากขึ้นทั้งมาตรการพักหนี้เกษตร หรือการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ต้องติดตามความคืบหน้าวงเงินงบประมาณต่างๆ ซึ่งอาจจะช่วยผลักดันดัชนีกลับมาได้ โดยหุ้นกลุ่มที่คาดว่าจะได้ผลประโยชน์จากนโยบายรัฐบาล เช่น กลุ่มค้าปลีก แม้ว่าไตรมาส 3/66 ผลประกอบการอาจจะไม่โดดเด่นมาก แต่หากมองไปในไตรมาส 4/66 หุ้นกลุ่มดังกล่าวยังอยู่ในจุดที่น่าสนใจ อีกทั้งราคาหุ้นยังไม่ตอบสนองต่อมาตรการภาครัฐเท่าไร ส่งผลให้อาจมีแรงเก็งกำไรเข้ามาได้บ้าง พร้อมให้แนวรับ 1,500 จุด และแนวต้าน 1,520 จุด