ตลาดหุ้นเอเชียเปิดภาคเช้าลดลงเป็นส่วนใหญ่ในวันนี้ (22 ก.ย.) โดยเคลื่อนไหวตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ปรับตัวลงเมื่อวานนี้ (21 ก.ย.) ขณะที่นักลงทุนจับตาว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินหรือไม่ หลังจากใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเป็นพิเศษมานาน
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดภาคเช้าที่ระดับ 32,189.32 จุด ลดลง 381.71 จุด หรือ -1.17% ขณะที่ดัชนีฮั่งเส็งเปิดที่ระดับ 17,578.26 จุด ลดลง 77.15 จุด หรือ -0.44% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,084.76 จุด ขยับขึ้น 0.06 จุด หรือ +0.002%
นักเศรษฐศาสตร์ในผลสำรวจที่จัดทำโดยสำนักข่าวรอยเตอร์ต่างคาดการณ์ว่า BOJ จะตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ -0.1%
ดัชนีหลักทั้ง 3 ของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลงติดต่อกันเป็นวันที่ 3 ในวันพฤหัสบดี (21 ก.ย.) หลังผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบหลายปี และนักลงทุนวิตกกังวลเพิ่มมากขึ้นว่า สมาชิกสภานิติบัญญัติสหรัฐฯ จะไม่สามารถผ่านร่างกฎหมายเพื่อหลีกเลี่ยงการชัตดาวน์หน่วยงานรัฐบาลได้
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ปัญหาหนี้สาธารณะเป็นปัจจัยที่ทำให้สภาคองเกรสเผชิญกับภาวะชะงักงันในการผลักดันร่างกฎหมายการใช้จ่ายที่จะทำให้รัฐบาลสามารถดำเนินงานได้จนถึงช่วงงบประมาณหน้า โดยสภาคองเกรสมีเวลาจนถึงวันที่ 30 ก.ย.นี้ในการผ่านร่างกฎหมายการใช้จ่าย
ดัชนี Nasdaq Composite นำตลาดปรับตัวลง 1.82% ส่วนดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วง 1.08% และดัชนี S&P500 ลดลง 1.64%
