หุ้นไทยปิดตลาดร่วง -4.43 จุด นักวิเคราะห์เผยแรงขายทำกำไรหุ้นกลุ่มพลังงาน-ไฟฟ้า หลังรัฐบาลใหม่เดินหน้านโยบายลดราคาพลังงานจึงเกิดแรงเทขายทำกำไรออกมา มองกรอบการลงทุนสัปดาห์หน้าแนวรับที่ 1,550 จุด และแนวต้านที่ 1,580 จุด แนะจับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ที่จะประกาศออกมาในคืนนี้ ซึ่งหากออกมาต่ำช่วยหนุนเฟดคงดอกเบี้ยในการประชุมรอบเดือน ก.ย.นี้
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 1 กันยายน 2566 ปรับตัวลดลง -4.43 จุด หรือ -0.28% โดยปิดตลาดที่ 1,561.51 จุด มูลค่าซื้อขาย 48,763.61 ล้านบาท โดยภาพรวมการซื้อขายหุ้นในวันนี้ ดัชนีเคลื่อนไหวทั้งแดนลบสลับแดนบวก โดยระหว่างวันดัชนีปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,571.81 จุด ในทางกลับกันที่ปรับตัวลดลงทำจุดต่ำสุด 1,559.20 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้น จำนวน 139 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลง จำนวน 142 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลง จำนวน 371 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุน พบว่า นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิกว่า -1,037.95 ล้านบาท ในทางกลับกัน พบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า +1,016.12 ล้านบาท บัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า +8.12 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิกว่า +13.70 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.BANPU มูลค่าการซื้อขาย 2,215.86 ล้านบาท ปิดที่ 8.30 บาท ลดลง 0.30 บาท
2.PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,967.25 ล้านบาท ปิดที่ 35.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
3.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,961.52 ล้านบาท ปิดที่ 162.50 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท
4.DELTA มูลค่าการซื้อขาย 1,454.26 ล้านบาท ปิดที่ 110.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
5.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,265.88 ล้านบาท ปิดที่ 129.50 บาท ลดลง 1.00 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.PTTEP ปิดที่ 162.50 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท หรือ 2.52%
2.DELTA ปิดที่ 110.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ 1.38%
3.EGCO ปิดที่ 134.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ 0.75%
4.BLA ปิดที่ 25.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท หรือ 3.06%
5.STA ปิดที่ 15.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.70 บาท หรือ 4.79%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.BH ปิดที่ 255.00บาท ลดลง 4.00 บาท หรือ 1.54%
2.FORTH ปิดที่ 33.75บาท ลดลง 1.25 บาท หรือ 3.57%
3.KBANK ปิดที่ 129.50บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ 0.77%
4. ADVANC ปิดที่ 215.00 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ 0.46%
5.JMART ปิดที่ 23.20 บาท ลดล ง 0.80 บาท หรือ 3.33%
ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,131.46 จุด ลดลง -2.13 จุด หรือ -0.10% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 957.01 จุด ลดลง -0.20 จุด หรือ -0.02% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 484.59 จุด ลดลง -9.09 จุด หรือ -1.84%
นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลง เคลื่อนไหวสวนทางตลาดภูมิภาคที่ปรับตัวขึ้นจากแรงขายทำกำไรออกมาต่อเนื่อง โดยนโยบายรัฐบาลใหม่จะลดค่าไฟและน้ำมันดีเซลส่งผลกระทบกลุ่มพลังงาน โรงไฟฟ้า อีกทั้ง JKN ที่ผิดนัดชำระหนี้ ทำให้เกิด Sentiment ลบต่อตลาด
ส่วนตลาดภูมิภาคปรับตัวขึ้นหลังจากที่แบงก์ใหญ่ของจีนปรับลดดอกเบี้ยเงินฝากและคาดสัปดาห์หน้าจะปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและภาคอสังหาริมทรัพย์ และรอติดตามตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ในคืนนี้ หากออกมาต่ำกว่า 1.7 แสนตำแหน่ง จะหนุนให้การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในเดือน ก.ย. ไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ย
ส่วนแนวโน้มสัปดาห์หน้าคาดดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวไซด์เวย์ ไม่มีปัจจัยใหม่ รอโปรดเกล้าคณะรัฐมนตรีก่อนที่จะเริ่มการประชุม ครม.ครั้งแรกในวันที่ 12 ก.ย.นี้ โดยประเมินกรอบการลงทุนแนวรับที่ 1,550 จุด แนวต้านที่ 1,580 จุด