ธนาคารกลางสิงคโปร์ (MAS) ได้กำหนดมาตรฐานความเข้มงวดมากขึ้นในการออกใบอนุญาตธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลให้ผู้ประกอบการ ซึ่งอาจทำให้ผู้ให้บริการสกุลเงินดิจิทัลรายใหญ่บางรายไม่สามารถให้บริการได้และต้องออกจากตลาดไป
จากการเปิดเผยของ blockworks ซึ่งอ้างอิงสื่อท้องถิ่นของสิงคโปร์ โดยระบุว่าการกำหนดมาตรฐานใหม่ ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ในวันที่ 1 มกราคม 2566 ที่ผ่านมากำหนดให้ผู้ให้บริการสกุลเงินดิจิทัล ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านการเงินและความปลอดภัยที่เข้มงวด ได้แก่
1.การตรวจสอบตัวตนของลูกค้าอย่างเข้มงวด
2.การรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่งสำหรับสินทรัพย์ดิจิทัล
3.การป้องกันไม่ให้สกุลเงินดิจิทัลถูกใช้เพื่อฟอกเงินหรือก่อการร้าย
MAS กล่าวว่ามาตรฐานใหม่เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อปกป้องนักลงทุนและระบบการเงินของสิงคโปร์จากความเสี่ยง
"สิงคโปร์มุ่งมั่นที่จะส่งเสริมนวัตกรรมในอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล แต่เรายังต้องแน่ใจว่าอุตสาหกรรมนี้ได้รับการควบคุมอย่างเหมาะสมเพื่อปกป้องนักลงทุนและระบบการเงินของเรา" Ravi Menon ผู้ว่าการ MAS กล่าว
ขณะที่ผู้ให้บริการสกุลเงินดิจิทัลรายใหญ่บางราย เช่น Binance และ Bybit ไม่ได้ยื่นขอใบอนุญาตภายใต้มาตรฐานใหม่
ซึ่ง Binance ได้ประกาศว่าจะไม่ให้บริการแก่ลูกค้าในสิงคโปร์อีกต่อไป โดยอ้างถึงกฎระเบียบที่เข้มงวด
ขณะที่ Bybit ยังคงให้บริการแก่ลูกค้าในสิงคโปร์ แต่ต้องจำกัดการเข้าถึงคุณสมบัติบางอย่าง
ทั้งนี้ มาตรฐานใหม่ของ MAS ได้รับการยกย่องจากนักเคลื่อนไหวด้านกฎระเบียบ ซึ่งกล่าวว่าเป็นขั้นตอนที่จำเป็นในการปกป้องผู้บริโภคจากกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม มาตรฐานใหม่ยังได้รับการวิพากษ์วิจารณ์จากอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งกล่าวว่าเป็นอุปสรรคต่อนวัตกรรม
"มาตรฐานใหม่ของ MAS กำหนดให้บริษัทปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เข้มงวดกว่าประเทศอื่นๆโดยสิ่งนี้อาจทำให้บริษัทบางแห่งออกจากตลาด และจำกัดการเข้าถึงสินทรัพย์ดิจิทัลสำหรับนักลงทุนในสิงคโปร์" Bobby Ong ผู้ร่วมก่อตั้ง CoinGecko กล่าว
ทั้งนี้มาตรฐานใหม่ของ MAS คาดว่าจะมีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลทั่วโลก เนื่องจากประเทศอื่นๆ อาจกำหนดมาตรฐานที่คล้ายคลึงกัน