พี.เอส.พี.สเปเชียลตี้ส์ เทรดวันแรกปิดเหนือจองที่ 10 บาท เพิ่มขึ้น 3.80 บาท จากราคาไอพีโอที่กำหนดไว้หุ้นละ 6.20 บาท หรือ 61.29% มูลค่าซื้อขาย 2,432.99 ล้านบาท ผู้บริหารเตรียมนำเงินไปใช้ลงทุนขยายงานและคืนหนี้เงินกู้ตามแผน
บริษัท พี.เอส.พี.สเปเชียลตี้ส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PSP เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เป็นวันแรก โดยเปิดที่ราคา 9.40 บาท ปรับเพิ่มขึ้น 3.20 บาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 51.61% จากราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ที่กำหนดไว้หุ้นละ 6.20 บาท และเมื่อปิดตลาดราคาหุ้นอยู่ที่ 10 บาท เพิ่มขึ้น 3.80 บาท หรือ 61.29% มูลค่าซื้อขาย 2,432.99 ล้านบาท
ทั้งนี้ PSP เสนอราคาขาย IPO ที่หุ้นละ 6.20 บาท จำนวนไม่เกิน 350 ล้านหุ้น คิดเป็นไม่เกิน 25% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดหลัง IPO โดยบริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่า 35% ของกำไรสุทธิจากงบเฉพาะกิจการภายหลังจากหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและเงินสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามที่ได้กำหนดไว้ในกฎหมายที่เกี่ยวข้องและข้อบังคับของบริษัท
นายสินธุ์ ครองพาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PSP เผยว่า บริษัทฯ เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นวันแรก ซึ่ง PSP จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้ลงทุนในโรงงานของบริษัท เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพในกระบวนการผลิต ชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน แบ่งเป็นวงเงินกู้ยืมสำหรับการเข้าซื้อ U.C. Marketing และวงเงินกู้ยืมระยะสั้น และเป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการดำเนินธุรกิจของบริษัท ในฐานะที่ PSP เป็นหนึ่งในผู้นำด้านผลิตภัณฑ์หล่อลื่นแบบครบวงจรของภูมิภาคอาเซียนและเป็นผู้ผลิตอิสระรายใหญ่ของประเทศไทย ที่มีกำลังการผลิตและส่วนแบ่งการตลาดมากที่สุดในหลายกลุ่มผลิตภัณฑ์ (สำหรับปี 2564) รวมถึงการให้บริการที่ครอบคลุมห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมการผลิตผลิตภัณฑ์หล่อลื่น และมีเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนรายได้เป็น 25% ของรายได้จากการขายรวมภายในปี 2569
น.ส.วีรยา ศรีวัฒนะ หัวหน้าฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายร่วม กล่าวว่า PSP เป็นบริษัทที่มีพื้นฐานการดำเนินธุรกิจที่แข็งแกร่งจากการเป็นหนึ่งในผู้นำอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์หล่อลื่นที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าชั้นนำในอุตสาหกรรมต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ ผ่านโมเดลการผลิตและให้บริการด้านผลิตภัณฑ์หล่อลื่นแบบครบวงจร ตลอดจนการนำความสามารถด้านการวิจัยพัฒนาที่แข็งแกร่งมาสร้างสรรค์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่มีอัตรากำไรที่ดี สอดรับกับการเติบโตของเทรนด์ของอุตสาหกรรม พร้อมการบริหารจัดการด้านการผลิตที่มีประสิทธิภาพ ช่วยส่งเสริมความสามารถในการแข่งขันและตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างการเติบโตที่ดี
นายพงศ์ศักดิ์ พฤกษ์ไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายร่วม กล่าวว่า PSP มีศักยภาพการเติบโตที่ดีจากการลงทุนเชิงกลยุทธ์ที่ครอบคลุมธุรกิจตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทาน เพื่อสามารถใช้ประโยชน์จากข้อได้เปรียบเชิงการแข่งขันทุกมิติในการสร้างการเติบโตไปกับกระแสการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน (Sustainable) และมุ่งเน้นธุรกิจในอนาคตที่เน้นการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม (New S-Curve) เพื่อส่งเสริมความสามารถการทำกำไรและสร้างการเติบโตอย่างมั่นคง