เอเวอร์แกรนด์ ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ที่สุดของจีน ยื่นคำร้องขอความคุ้มครองการล้มละลายต่อศาลในนิวยอร์กเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2023
สำนักข่าว Reuters รายงานว่า การยื่นคำร้องขอความคุ้มครองการล้มละลายของเอเวอร์แกรนด์เป็นเหตุการณ์สำคัญที่สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาทางการเงินของบริษัทและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจจีนและโลก
เอเวอร์แกรนด์ก่อตั้งขึ้นในปี 1992 โดยหลี่ หย่งเชา และเติบโตอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นหนึ่งในบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีมูลค่าทรัพย์สินรวมกว่า 3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม ในปี 2021 เอเวอร์แกรนด์เริ่มประสบปัญหาทางการเงิน เนื่องจากยอดขายและกำไรของบริษัทลดลงอย่างต่อเนื่อง ปัญหาดังกล่าวยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นในปี 2022 เมื่อเอเวอร์แกรนด์ผิดนัดชำระหนี้หลายครั้ง
การผิดนัดชำระหนี้ของเอเวอร์แกรนด์ได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจจีน เนื่องจากเอเวอร์แกรนด์เป็นบริษัทที่มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ รัฐบาลจีนได้ออกมาตรการต่างๆ เพื่อช่วยเหลือเอเวอร์แกรนด์ แต่การช่วยเหลือดังกล่าวยังไม่เพียงพอที่จะแก้ไขสถานการณ์ของเอเวอร์แกรนด์ได้
การล้มละลายของเอเวอร์แกรนด์อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกได้ เนื่องจากเอเวอร์แกรนด์มีหนี้สินจำนวนมากต่อบริษัทต่างๆ ทั่วโลก หากเอเวอร์แกรนด์ไม่สามารถชำระหนี้ได้ อาจส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องของตลาดการเงินโลกได้
การล้มละลายของเอเวอร์แกรนด์เป็นเหตุการณ์สำคัญที่สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาของตลาดอสังหาริมทรัพย์จีน ตลาดอสังหาริมทรัพย์จีนเป็นตลาดที่ใหญ่และเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ตลาดดังกล่าวก็มีความเปราะบางสูงเช่นกัน การล้มละลายของเอเวอร์แกรนด์อาจส่งผลกระทบต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์จีนในระยะยาวได้
กระบวนการการยื่นคำร้องขอความคุ้มครองการล้มละลายของเอเวอร์แกรนด์
เอเวอร์แกรนด์ยื่นคำร้องขอความคุ้มครองการล้มละลายภายใต้บทที่ 15 ของกฎหมายล้มละลายของสหรัฐฯ ซึ่งอนุญาตให้บริษัทต่างชาติสามารถขอความคุ้มครองการล้มละลายในศาลสหรัฐฯ
การยื่นคำร้องขอความคุ้มครองการล้มละลายของเอเวอร์แกรนด์มีวัตถุประสงค์เพื่อปกป้องทรัพย์สินของบริษัทและหารือกับเจ้าหนี้เกี่ยวกับแผนการปรับโครงสร้างหนี้
การยื่นคำร้องขอความคุ้มครองการล้มละลายของเอเวอร์แกรนด์ไม่ได้หมายความว่าบริษัทจะปิดตัวลง อย่างไรก็ตาม การปรับโครงสร้างหนี้อาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการดำเนินธุรกิจและพนักงานของบริษัท
การยื่นคำร้องขอความคุ้มครองการล้มละลายของเอเวอร์แกรนด์เป็นเหตุการณ์สำคัญที่สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาทางการเงินของบริษัทและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจจีนและโลก ยังคงต้องติดตามต่อไปว่าผลกระทบจากการล้มละลายของเอเวอร์แกรนด์จะเป็นอย่างไร
ทั้งนี้หากย้อนไปในปี 2021 สำนักข่าว Bloomberg ระบุว่า เอเวอร์แกรนด์ได้ลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึง Bitcoin, Ethereum และ Tether การลงทุนดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของแผนของเอเวอร์แกรนด์ในการกระจายความเสี่ยงของสินทรัพย์และเพื่อรับผลตอบแทนที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม การลงทุนดังกล่าวได้กลายเป็นปัญหาเมื่อราคาสินทรัพย์ดิจิทัลตกต่ำในปี 2022 ทำให้เอเวอร์แกรนด์ประสบปัญหาทางการเงินมากขึ้น
ในปี 2023 เอเวอร์แกรนด์ได้ประกาศว่าจะขายสินทรัพย์ดิจิทัลทั้งหมดเพื่อชำระหนี้ อย่างไรก็ตาม การขายสินทรัพย์ดิจิทัลดังกล่าวยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาทางการเงินของเอเวอร์แกรนด์ได้ และบริษัทยังคงเสี่ยงต่อการล้มละลาย
ความเกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัลของเอเวอร์แกรนด์ได้ส่งผลกระทบต่อตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลทั่วโลก โดยราคา Bitcoin และ Ethereum ลดลงอย่างรุนแรงหลังจากข่าวการล้มละลายของเอเวอร์แกรนด์ เหตุการณ์ดังกล่าวได้ตอกย้ำความผันผวนและความเสี่ยงของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล