ก่อนที่จะมีการประกาศงบนั้นนักวิเคราะห์จะมีการนัดหมายกับทางบริษัทเพื่อสอบถามแนวโน้มการดำเนินงานว่าเป็นอย่างไร เรียกว่า Earning Preview Meeting โดยส่วนใหญ่เกิดขึ้นจะหลังจากสิ้นงวดสัก 10-15 วัน ซึ่งอาจเป็นการพูดคุยทั้งแบบกลุ่มนักวิเคราะห์ (group meeting) หรือ นักวิเคราะห์รายบุคคล (one on one)
โดยเฉพาะการพูดคุยรายกลุ่มจะมีผลกระทบกับตลาดค่อนข้างมากหากแนวโน้มการดำเนินงานที่จะออกมาผิดจากที่เคยคาดไว้อย่างมีนัยสำคัญไม่ว่าจะเป็นทั้งทางบวกหรือลบ โดยราคาหุ้นจะสะท้อนทันทีหลังการประชุมจากข้อมูลที่ได้รับมา ตัวอย่างเช่นกรณี PTG และ PTTGC เป็นต้น ซึ่งข้อมูลที่ได้รับจากการประชุมนั้น แย่กว่าที่นักวิเคราะห์ในตลาดได้เคยประเมินไว้
จากนั้นราคาหุ้นจะแกว่งตัวรอจนถึงวันประกาศงบจริงว่าสิ่งที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์กับผลที่ออกมาคลาดเคลื่อนไปมากน้อยเพียงใด ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นอีก 1 ครั้งหากผิดจากที่คาดไว้
ซึ่งมันมักจะเกิดเหตุการณ์ buy on fact (เช่น งบออกมาแย่ตามคาด) หรือว่า sell on fact (งบออกมาดีตามคาด) ในจังหวะนี้ได้ และจากนั้นจะมีการประชุมนักวิเคราะห์เพื่อชี้แจงผลการดำเนินงานที่ออกมา และแนวโน้มช่วงที่เหลือของปีว่าเป็นเช่นใด เราเรียกประชุมนี้ว่า Earning Review Meeting
เดือน ส.ค.เดือนงบออก นักลงทุนเตรียมตัวเจออะไร ?
เราคาดว่าเดือนส.ค. ยังเป็นเดือนแห่งความผันผวน แม้ปัจจัยการเมืองคาดใกล้ได้ข้อสรุปแล้วว่าหน้าตารัฐบาลจะเป็นอย่างไร แต่คงต้องดูว่าจะมีปัญหาหลังจากจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่
เดือนส.ค. เป็นช่วงที่จะประกาศผลการดำเนินงาน 2Q23 แม้ตลาดจะมีการคาดการณ์กันแล้วว่ากลุ่มไหนดี, ไม่ดี แต่ต้องรองบที่ออกมาว่าจะผิดจากที่คาดไว้มากน้อยเพียงใด รวมถึงหลังการประชุมนักวิเคราะห์ที่ผู้บริหารแต่ละแห่งจะมาให้แนวโน้มช่วงที่เหลือของปีและนำไปสู่การปรับลดหรือเพิ่มประมาณการอีกครั้ง ซึ่งในไตรมาสนี้ กลุ่ม Real sector เราคาดว่ามีโอกาสสูงที่ตลาดจะปรับลดประมาณการลงจากการดำเนินงานที่ไม่ดีใน 2Q23
ขณะที่แนวโน้มช่วงที่เหลือ แม้คาดว่าจะดีขึ้น q-q แต่คาดการฟื้นตัวอาจไม่เหมือนปีก่อนๆ จากราคาผลิตภัณฑ์ที่ยังไม่ฟื้นตัว ประกอบกับกำลังซื้อที่ฟื้นช้า หรือบางจุดยังหดตัวจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่อ่อนแอ รวมถึงได้รับผลจากอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น
ที่มา : บล.ลิเบอเรเตอร์