ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ก.ค.66 อยู่ที่ระดับ 55.6 ปรับตัวลดลงจากเดือน มิ.ย. ซึ่งอยู่ที่ระดับ 56.7 โดยเป็นการปรับตัวลดลงครั้งแรกในรอบ 14 เดือน
ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวม เดือน ก.ค.66 อยู่ที่ระดับ 50.3 ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสในการหางานอยู่ที่ 52.7 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตอยู่ที่ 63.9 โดยดัชนีทุกตัวปรับลดลงจากเดือนก่อนหน้า
สำหรับปัจจัยลบที่สำคัญ คือ ความกังวลต่อความไม่แน่นอนในการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ และเสถียรภาพทางการเมืองในประเทศ ผู้บริโภคกังวลว่าเศรษฐกิจยังฟื้นตัวได้ช้า และปัญหาหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% เป็น 2.00% สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจปีนี้ลงเหลือ 3.5% จากเดิม 3.6% จากผลของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าที่อาจจะกระทบต่อการส่งออกไทยในช่วงครึ่งปีหลัง ความกังวลต่อภาวะภัยแล้ง และเอลนิโญ ตลอดจนสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ยังมีความไม่แน่นอน
ส่วนปัจจัยบวก ได้แก่ จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นหลังการเปิดประเทศ ทำให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในภูมิภาค และมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น ราคาพืชผลทางการเกษตรหลายรายการปรับตัวดีขึ้น ส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น ราคาน้ำมันดีเซลในประเทศยังทรงตัว เงินบาทแข็งค่า สะท้อนว่ามีการไหลเข้าสุทธิของเงินตราต่างประเทศ